Category ข่าววันนี้

BLACKPINK แฟนไม่ปลื้ม

แฟนไม่ปลื้ม! หลังผู้จัดติดโปสเตอร์ภาพ BLACKPINK ที่สนามศุภฯ อาย เก่า-เชย

แฟนคลับไม่ปลื้ม หลังผู้จัดติดโปสเตอร์ภาพของ 4 สาว วง BLACKPINK ที่สนามศุภชลาศัย ถึงขนาดบอกอาย ทั้งยังเก่า อีกทั้งเชย ไม่ทราบต้องแต่งตัวแบบไหนไปดี เมื่อวันที่ (4 เดือนมกราคม) สนามกีฬาแห่งชาติ (สนามศุภชลาศัย) ได้ติดโปสเตอร์ขนาดใหญ่ของวง BLACK PINK
ซึ่งเป็นรูปสมาชิกอย่าง ‘เจนนี่- ลิซ่า-โรเซ่- จีซู’ ต้อนรับคอนเสิร์ต ‘BLACKPINK WORLD TOUR BORN PINK BANGKOK’ ซึ่งจะจัดขึ้นในวันที่ 7-8 มกราคม 2566

BLACKPINK สนามกีฬา

หลังมีภาพปล่อยออกมาก็ถูกแฟนคลับวิจารณ์สนั่นไปทั่วโซเชียล

ถึงสภาพสถานที่จัดงานซึ่งมีความขัดแย้งกับป้ายของสาว ๆ เป็นอย่างมาก เพราะเหตุว่าสถานที่ค่อนข้างจะเก่ารวมทั้งชำรุดทรุดโทรม เรื่องจริงแล้วเรื่องสถานที่จัดคอนเสิร์ต ถูกแฟนคลับติเตียนมาตั้งแต่เผยสถานที่และก็ผังจัดงาน เนื่องจากว่าผู้คนจำนวนมากมองว่า สนามกีฬาแห่งชาติ (สนามศุภชลาศัย) ไม่เหมาะที่จะจัดคอนเสิร์ตของ BLACK PINK แต่ด้วยเหตุผลหลาย ๆ อย่าง ก็ทำให้ต้องจำใจยอมรับชะตากรรมไป

เมื่อมีภาพของสถานที่จัดงานแล้วก็การตระเตรียมตกแต่งถูกปลดปล่อยออกมา ก็เหมือนยิ่งย้ำเตือนให้แฟน ๆ รู้สึกไม่สบอารมณ์อีกทีนั่นเอง หลายท่านเย้าแหย่ว่าวินเทจจนกระทั่งไม่ทราบจะแต่งตัวไปดูคอนเสิร์ตอย่างไรดี บางคนกล่าวว่า

“นี่เป็นสถานที่จัดคอนเสิร์ตของวงระดับโลกที่มีเมมเบอร์ อย่างลิซ่าเป็นเจ้าบ้าน มีโอกาสจะใช้สื่อฟรีจากงานนี้โปรโมตประเทศเป็น soft power อย่างที่รบ.ประกาศว่าจะทำ แล้วดูสภาพ ใครไม่อาย ชั้นอาย”

BLACKPINK คอนฯ

คนไม่ใช่น้อยนำภาพไปเย้าแหย่ทำเป็นสีขาว-ดำ กล่าวว่าให้อารมณ์อย่างกับยุค 70s – 80s บางคนกล่าวว่าไม่เคยมีความรู้สึกว่าสนามศุภชลาศัยจะเก่าขนาดนี้ จนกระทั่งแขวนรูปของสาว ๆ

อย่างไรก็ตามทางผู้จัดคงหยุดกระแสวิพากษ์วิจารณ์นี้ไม่ได้ เนื่องจากว่าเป็นสภาพที่เกิดขึ้นจริง รวมทั้งแฟน ๆ เองก็เหมือนกัน

ที่อาจต้องก้มหัวยอมรับสถานที่จัดคอนเสิร์ตนี้ต่อไป ทางแก้ไขปัญหาอาจจะมีเพียงแค่หน่วยงานที่เกี่ยวโยงควรจะเข้ามาแก้ไขแล้วก็ดูแล เพื่อคราวต่อไปพวกเราจะได้ไม่ต้องแอบเขินขนาดนี้

BLACKPINK ลิซ่า

“เดียร์น่า” เพื่อนซี้ “ลิซ่า BLACKPINK” กุมขมับ ราคาบัตรคอนเสิร์ต

วอล์มเสียง ยังไม่ทันได้เตรียมร้อง “BLACK PINK IN YOUR AREA” ต้องกุมขมับกับราคาบัตรคอนเสิร์ต ที่พึ่งเปิดให้จองใหม่ ไปทั่วหน้า หากแม้แต่เพื่อนสนิท “ลิซ่า” อย่างนางเอกสาว “เดียร์น่า ฟลีโป” ยังต้องส่งใจ หลังกดบัตร 4800 บาท มาไว้ในกำมือ

“BLACKPINK” วงเกิร์ลกรุ๊ป มีชื่อ ระดับโลก ประกอบด้วย 4 สาว คือ “ลิซ่า เจนนี่ โรเซ่ แล้วก็ จีซู” หลังจากที่ห่างหายไปเกือบ 2 ปี จนชาว บลิ้งค์ คิดถึงแทบจะใจจะขาด ปัจจุบัน เมื่อกันยายนที่ผ่านมา แบล็กพิงก์

ได้ปล่อยซิงเกิลใหม่ Pink Venom แล้วก็ตามมาติด ๆ ด้วย เพลง Shut down พร้อมอัลบั้มเต็ม “BORN PINK” รวมทั้งได้รับเสียงตอบรับถล่มทลายยิ่งกว่า กับ คอนเสิร์ตเวิลด์ทัวร์ “BLACKPINK WORLD TOUR BORN PINK” บินไกลแจกความบลิงก์ชมพูดำรอบโลกไปแล้ว จัดแจงนับถอยหลังถึงคิวของกรุงเทพ ไทยแลนด์

4 สาว BLACKPINK จัดเตรียมโชว์จัดเต็ม BLACK PINK BORN PINK WORLD TOUR BANGKOK ในวันที่ 7-8 ม.ค.2566 ณ สนามกีฬาแห่งชาติ (สนามศุภชลาศัย) เรียกเสียงกรี๊ดให้ชาว Blinks ได้ถูกใจพอสมควร

แต่กระแสวิพากษ์วิจารณ์ก็มาพอเท่ากับเสียงกรี๊ดเช่นกัน ตั้งแต่การเปิดรอบขายบัตรเพิ่ม พร้อมเปิดโซนใหม่ ที่คนจำนวนไม่น้อยถึงกับต้องมองดูแล้วมองอีก “สงสัยว่า หืม เกิดอะไรขึ้น” รวมถึงนางเอกสาว คนรู้จักมักคุ้นของ ลิซ่า

BLACKPINK แผนผัง
คอนเสิร์ต BLACKPINK BORN PINK BANGKOK เช็คตารางโชว์-แผนผังงานที่นี่

นับถอยหลังอีกไม่กี่วัน สาวกบลิ๊งค์ BLINK จะได้ดูคอนเสิร์ต “BLACKPINK WORLD TOUR BORN PINK BANGKOK” ของ 4 สาว จีซู เจนนี่ โรเซ่ รวมทั้งลิซ่า กันแล้ว โดยคอนเสิร์ตแบล็กพิงค์ จะจัดขึ้นระหว่างวันที่ 7-8 มกราคม 2566 ณ สนามกีฬาแห่งชาติ หรือ สนามศุภชลาศัย

ตารางเวลาโชว์ คอนเสิร์ต BLACKPINK BORN PINK BANGKOK

10.00 น. เปิดทางเข้าประตู 1-3
12.00 น. เปิดจุดตรวจความปลอดภัยที่ 3 (ฝั่งจุฬาซอย 12) และ เปิดบูธจำหน่ายของที่ระลึก จุดที่ 1 (หน้าสนามศุภชลาศัย) และ จุดที่ 2 (ในสนามฝึกซ้อม) สำหรับผู้ถือบัตรวีไอพีแพคเกจ
13.00 น. เปิดบูธจำหน่ายของที่ระลึก บริเวณสนามเทพหัสดิน
14.00 น. เปิดรันคิวสำหรับผู้ถือบัตรวีไอพีแพคเกจ (เรียงลำดับคิวตามเลขที่ปรากฏบนหน้าบัตรเข้าชมการแสดง และแยกโซนวีไอพี 1 และ วีไอพี 2)
15.30 – 15.50 น. เปิดประตูการแสดงสำหรับผู้ถือบัตรวีไอพีแพคเกจ
16.00 น. เริ่มการแสดง SOUNDCHECK
16.00 น. เปิดจุดตรวจความปลอดภัย สำหรับผู้ถือบัตรทั่วไป

1.จุดตรวจความปลอดภัยที่ 1 (ในสนามฝึกซ้อม) สำหรับบัตรชมการแสดง โซน B และ โซน W
2.จุดตรวจความปลอดภัยที่ 2 (หน้าสนามจินดารักษ์) สำหรับบัตรชมการแสดง โซน A1 โซน A2 และ โซน N
3.จุดตรวจความปลอดภัยที่ 3 (ฝั่งจุฬาซอย 12) สำหรับบัตรชมการแสดง โซน E

16.30 น. เปิดประตูการแสดงสำหรับผู้ถือบัตรทั่วไป
19.00 น. เริ่มการแสดง
19.00 น. เปิดทางเข้าประตู 3 เพื่อจำหน่ายของที่ระลึก สำหรับบุคคลทั่วไป บริเวณสนามเทพหัสดิน

ส่วนข้าวของต้องห้าม หรือ กฎที่ต้องปฏิบัติตามในการดูการแสดงดนตรี BLACK PINK BORN PINK BANGKOK มีดังต่อแต่นี้ไป

BLACKPINK สิ่งห้าม

ข้อควรจะรู้ ในการแสดงดนตรี BLACK PINK BORN PINK BANGKOK

ลูกค้าสามารถรับบัตรที่ระลึก (บัตรแข็ง) ได้ที่จุดตรวจความปลอดภัยก่อนเข้าชมการแสดง การใช้จ่ายภายในงาน สามารถจ่ายเงินสดหรือสแกนคิวอาร์โคดกับร้านค้า อย่างไรก็ตาม โปรดกดเงินสดติดตัว ในกรณีที่เกิดปัญหาสัญญาณอินเตอร์เน็ตขัดข้อง

กำหนดการรวมทั้งเวลาบางทีอาจเปลี่ยนแปลงได้โดยไม่ต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้า เพื่อความคล่องตัว กรุณาศึกษาแผนผังบริเวณงาน กฎข้อบังคับและก็สิ่งของต้องห้ามล่วงหน้า

การเดินทางมาดูคอนเสิร์ต BLACKPINK BORN PINK BANGKOK

แนะนำให้ใช้รถสาธารณะ หรือบริการของรถไฟฟ้า BTS สถานีสนามกีฬาแห่งชาติ ทางออก 2 และเตรียมซื้อบัตรรถไฟฟ้า BTS ขากลับไว้ล่วงหน้า กรณีมีผู้ใช้บริการหนาแน่น สามารถเดินไปใช้บริการที่สถานีสยามได้ ก่อนเวลา 24.00 น. ส่วนผู้ใช้รถใช้ถนนบริเวณที่จัดงานคอนเสิร์ต กรุณาวางแผนการเดินทาง โดยให้เลี่ยงการเดินทางในซอยจุฬาฯ 5/ซอยจุฬาฯ 6/ซอยจุฬาฯ 12/ถนนพระราม 1/ถนนบรรทัดทอง และบริเวณใกล้เคียง ในช่วงเวลา 11.00 – 23.00 น.

ดราม่าวงการบันเทิง รวม

ดราม่าวงการบันเทิง ปี 2022 ประเด็นร้อน สนั่นโซเชียล

ดราม่าวงการบันเทิง แห่งปี 2022 แต่ละเรื่อทั้งดราม่าเกินไปมาก ทั้งไม่น่าจะดราม่า แต่ว่าบางเรื่องก็ดราม่าแอบแซ่บไม่เบา นับว่าเป็นกระแสร้อนทำให้แวดวงบันเทิงในปีนี้ไม่เงียบเหงา

หากจะเอ่ยถึงเรื่องราวดราม่าในปี 2022 ของวงการบันเทิงบ้านพวกเรามีเรื่องมีราวให้ต้องเกาะติดกันอยู่ตลอด แม้ว่าแต่ละเรื่องจะถูกเอ่ยถึงและวิพากษ์วิจารณ์กันมากมาย แต่ก็เป็นกระแสที่พัดผ่านมาเพื่อเป็นสีสันเพียงแต่ชั่วครู่เพียงแค่นั้น รวบรวมดราม่าสะเทือนวงการบันเทิงในปี 2022 เรื่องราวเด่นๆเอามาย้อนเรื่องกันอีกที จะมีเรื่องมีราวอะไรบ้าง ไปติดตามกันเลย

ดราม่าวงการบันเทิง โตโน่

ดราม่าวงการบันเทิง โตโน่ ภาคิน กับ โครงการ “One Man & The River หนึ่งคนว่าย หลายคนให้”

เริ่มดราม่าสนั่นโซเชียลมากที่สุด นั้นก็คือเรื่องราวการว่ายน้ำข้ามโขงของนักร้องหนุ่ม โตโน่ ภาคิน กับภารกิจช่วยเหลือสังคมในโครงการ “One Man & The River หนึ่งคนว่าย หลายคนให้” เพื่อรับบริจาคเงินบริจาคซื้อเครื่องมือการแพทย์ให้โรงพยาบาลทั้ง 2 ฝั่ง ไทยและลาว ทำเอาชาวเน็ตเสียงแตก มีทั้งฝ่ายชื่นชมความมุ่งมั่นตั้งใจของนักร้องหนุ่ม กับอีกฝ่ายที่แอนตี้อย่างรุนแรง วิพากษ์วิจารณ์ว่าเป็นการสร้างภาระหน้าที่ให้กับบุคลากรทางการแพทย์ซะมากกว่า แถมยังมีคนภายในวงการบันเทิงร่วมวงดราม่าด้วย จนเกิดแฮชแท็ก #โตโน่ภาคิน ติดเทรนด์ทวิตเตอร์อันดับหนึ่งในตอนนั้น แต่เจ้าตัวก็มุ่งมั่นทำสิ่งที่ตั้งใจฝ่าทุกเสียงวิจารณ์มาได้สำเร็จ

ดราม่าวงการบันเทิง ก้อย รัชวิน

ก้อย รัชวิน “Esther Bunny Women’s run presented by ATiRA”

ต่อด้วยสายวิ่งมาราธอนอย่าง นักแสดงสาว ก้อย รัชวิน จู่ๆก็ได้เกิดดราม่าขึ้น เมื่อมีชาวเน็ตออกมากล่าวถึงโครงการวิ่งมาราธอนสำหรับผู้หญิง “Esther Bunny Women’s run presented by ATiRA” ที่สาวก้อยเป็นพรีเซ็นเตอร์ ว่าค่าสมัครมีราคาสูง แต่นำเงินไปบริจาคจำนวนน้อยไป ซึ่งเจ้าตัวได้ออกมาโต้ว่าถูกบิดเบือนข้อมูล พร้อมนำข้อมูลจริงมาชี้แจงสยบดราม่าลงได้แบบนิ่ม ๆ

ดราม่าวงการบันเทิงใคร

ดราม่าวงการบันเทิง บอล เชิญยิ้ม VS โชค รถแห่

จากเรื่องเข้าใจกันนิดหน่อย กลายเป็นเรื่องที่สังคมให้ความสนใจ สำหรับปมปัญหาของ บอล เชิญยิ้ม กับ โชค รถแห่ ภายหลังจากทั้งคู่ตอบโต้เรื่องผลประโยชน์การทำงานกันไปมาผ่านโลกออนไลน์ จนกระทั่งกลายเป็นดราม่าร้อนระอุ ก่อนโชคจะทนแรงกดดันจากสังคมไม่ไหว ออกมาประกาศขอยุติบทบาทงานคู่ กว่า 50 คิว ที่รับไว้คู่กับบอล สุดท้ายรายการดังทำหน้าที่เป็นคนกลาง นัดให้ทั้งสองคนออกมาเคลียร์ใจ กระทั่งสามารถจบปมปัญหาดังกล่าวลงได้ด้วยดี

ดราม่าวงการบันเทิง พลอยคริส

นิ้ง ชัญญา VS พลอย หอวัง

ส่วนดราม่านี้แอบแซ่บไม่เบา หลังจากนักแสดงสาว นิ้ง ชัญญา ได้ให้สัมภาษณ์ยืนยันไม่ได้เป็นมือที่สาม ทำความรักของนักแสดงรุ่นพี่ พลอย หอวัง กับแฟนหนุ่ม ทู สิราษฎร์ ต้องพังทลายลง ด้านพี่สาวของพลอย อย่าง คริส หอวัง ก็ได้เขียนข้อความผ่านทวิตเตอร์ในทันทีว่า “วันนั้นที่สารภาพกับพี่…ไม่เหมือนที่พูดวันนี้นี่คะ” ทำเอาชาวทวิตเตอร์ลุกฮือ พากันเดาว่าสาวคริสตั้งใจจะสื่อถึงเรื่องราวความรักของน้องสาวหรือเปล่า งานนี้สายสืบทั้งหลายออกปฏิบัติการรื้อฟื้นเรื่องราวดังกล่าว จนถึงทวิตเตอร์เดือดกันเลยทีเดียว

ดราม่าวงการบันเทิง เท่ง

ส้มเช้ง สามช่า ไม่ได้ไปงานบวช โหงวเฮ้ง ลูกชาย เท่ง เถิดเทิง

เรื่องในครอบครัวกลายเป็นประเด็นร้อนในโซเชียลจนได้ เมื่อมีคนสงสัยเพราะอะไรน้องสาวอย่าง ส้มเช้ง สามช่า ถึงไม่ได้ไปร่วมงานบวชของ โหงวเฮ้ง ลูกชาย เท่ง เถิดเทิง ซึ่งเป็นพี่ชายแท้ๆร้อนถึงส้มเช้งกับลูกสาวรีบตอบคำถามดังกล่าวผ่านช่องยูทูปของตนเอง ว่าไม่ได้ถูกเชิญไปร่วมงาน เพราะว่าฝ่ายบ้านพี่ชายบอกว่าจะจัดงานเล็กๆรวมถึงเรื่องของเหตุการณ์โควิดก็เลยไม่ได้ไป ทำให้ยิ่งเกิดดราม่าสงสัยในความสัมพันธ์ของพี่น้องมีปัญหาอะไรกันหรือเปล่า โดยทั้งสองได้ออกมาปฏิเสธประเด็นแตกหัก ว่าพี่น้องไม่เคยทะเลาะกัน แค่ลูกๆน้อยใจงอนกันตามประสาวัยรุ่นแค่นั้น

ดราม่าวงการบันเทิงบีม

ครอบครัวของ บีม กวี

แม้แต่การเลี้ยงลูกก็เจอดราม่าไม่พัก สำหรับคุณพ่อ บีม กวี หลังจากภรรยา ออย อฏิพรณ์ คลอดลูกสาวแฝด น้องอัยวา กับ น้องอัญญา ออกมาไม่ได้นาน ก็ถูกคนวิจารณ์เรื่องจับลูกมาถ่ายภาพกับผลิตภัณฑ์ กลายเป็นท็อปปิกดราม่าลูกพึ่งจะลืมตาดูโลกได้ไม่นาน จะต้องมาช่วยพ่อแม่ขายของซะแล้ว งานนี้พ่อบีมเลยออกโรงบอกนานาจิตตัง การที่ลูกจะช่วยพ่อแม่ขายสินค้าของครอบครัว ก็ไม่น่าจะใช่เรื่องแปลกอะไร เป็นการเมินเสียงวิจารณ์สไตล์คุณพ่อลูกสี่ ที่ผ่านประสบการณ์รับมือมาแล้วหลายดราม่า

ดราม่าวงการบันเทิงโก้

โก้ วศิน ถูกปลด จากช่อง 7

อยู่ ๆ ก็ถูกต้นสังกัด ประกาศยกเลิกสัญญาแบบฟ้าผ่า สำหรับพระเอกหนุ่ม โก้ วศิน ซึ่งทำให้เกิดดราม่าร้อนในโลกโซเชียล ชาวเน็ตคอมเมนต์ถกกันเดือด โยงปมถูกปลดเพราะหนุ่มโก้ข้ามช่อง ไปออกรายการร้องเพลงชื่อดังหรือเปล่า ซึ่งเจ้าตัวได้ออกมายอมรับ เกิดจากการสื่อสารผิดพลาดกับทีมงานรายการ ทำให้เทปดังกล่าวออกอากาศก่อนถึงกำหนดหมดสัญญา กับต้นสังกัด จึงส่งผลให้ถูกยกเลิกสัญญาทันที แต่ภายหลังจากหนุ่มโก้ผลันตัว เป็นนักแสดงอิสระ กลายเป็นหนุ่มเนื้อหอมงานรุม ปังส่งท้ายปีไปเลย

ดราม่าวงการบันเทิงใหม่พี

ดราม่าวงการบันเทิง ของแฟนคลับ ใหม่ ดาวิกา และ พีพี กฤษฏ์

จบท้ายด้วยดราม่าที่ดูเหมือนจะไม่มีอะไร แต่ว่ากลายเป็นสร้างความไม่พอใจ หลังจากมีผู้ใช้ทวิตเตอร์รายหนึ่งได้โพสต์ข้อความตำหนิ นางเอกสาว ใหม่ ดาวิกา ที่เรียกนักแสดงรุ่นน้อง พีพี กฤษฏ์ ว่า ลูกสาว และ น้องสาว ทำเอาแฟนคลับทั้งสองฝ่ายฟาดกันยับผ่านโซเชียล ก่อนไฟกองนี้จะมอดดับลง เมื่อใหม่กับพีพีได้ออกมาชี้แจงถึงประเด็นดังกล่าว ซึ่งทั้งสองนั้นมีมิตรภาพที่ดีต่อกัน จึงไม่ได้ติดใจอะไรกับเรื่องราวดราม่าที่เกิดขึ้น

Avatar รายได้

อันดับ 1 ทั่วโลก Avatar: The Way of Water เปิดตัววีคแรกทะยานสู่ 300 ล้านทั่วไทย

ยิ่งใหญ่สมการรอคอย ภาพยนตร์ Avatar : The Way of Water อวตาร: วิถีแห่งสายน้ำ ผลงานมาสเตอร์พีซปัจจุบัน จากผู้กำกับมือทอง เจมส์ คาเมรอน (James Cameron) ขึ้นแท่นภาพยนตร์เปิดตัวอันดับ 1 ทั่วโลก ทำรายได้ทั่วทั้งโลกไปกว่า 435 ล้านดอลลาห์สหรัฐ ได้รับคำยกย่องจากนักวิจารณ์ และก็ ผู้ชมว่า เป็นภาพยนตร์ที่ดีที่สุด ส่งท้ายปี 2022

แคเมรอน เคยกล่าวไว้ เมื่อปี ค.ศ. 2006 ว่า เขาอยากจะสร้างภาคต่อของ อวตาร ถ้าหากภาพยนตร์ประสบผลสำเร็จ หลังภาพยนตร์ประสบความสำเร็จ เขาได้ประกาศภาคต่อสองเรื่องเมื่อปี ค.ศ. 2010 โดยกำหนดให้ อวตาร 2 ฉายในปี ค.ศ. 2014 อย่างไรก็ตาม มีการประกาศสร้างภาคต่ออีกสามเรื่อง รวมทั้ง ความจำเป็นในการพัฒนาเทคโนโลยีใหม่ เพื่อถ่ายทำการจับการเคลื่อนไหวในฉากใต้น้ำ ซึ่งความสำเร็จที่ไม่เคยมีมาก่อน กระตุ้นแล้วส่งผลให้มีการเกิดความล่าช้าอย่างยิ่ง

เพื่อให้ทีมงานมีเวลาเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ สำหรับการทำงานเขียนบท, ก่อนการสร้าง รวมทั้ง วิชวลเอ็ฟเฟ็กต์ ภาพยนตร์เลื่อนฉายถึงแปดครั้ง โดยครั้งล่าสุด เกิดขึ้นในวันที่ 23 ก.ค. ค.ศ. 2020

Avatar ดัง

Avatar ด้วยแนวทางการถ่ายทำที่เปลี่ยนแปลงวงการภาพยนตร์ไปอีกขั้นหนึ่ง

เวลาที่ ประเทศไทย ก็ไม่น้อยหน้า จัดแจงมุ่งสู่ 300 ล้านบาท

ภายในสัปดาห์นี้ การันตีความสนุก ด้วยสถิติภาพยนตร์ฮอลลีวูดเปิดตัวสูงสุดตลอดกาล ในธ.ค. รวมทั้ง การถูกเสนอชื่อเข้าชิงรางวัลลูกโลกทองคำ Golden Globe ครั้งที่ 80 (80th Golden Globe awards)

ในสาขาภาพยนตร์ยอดเยี่ยม แล้วก็ ผู้กำกับยอดเยี่ยม นับว่าเป็นภาพยนตร์เรื่องนี้ ควรค่าที่ทุกคน ไม่ควรพลาดในโรงภาพยนตร์ แม้แต่วินาทีเดียว เคาท์ดาวน์ 2023 #ปีใหม่ไปดูอวตาร 2 พร้อมกันในโรงภาพยนตร์ เท่านั้น!

ด้านเสียงตอบรับจากแฟนภาพยนตร์คนไทย ในสัปดาห์แรกที่เข้าฉาย ทุกคนกล่าวเป็นเสียงเดียวกันว่า สมการรอคอยกว่า 13 ปี ไม่ผิดหวังแม้แต่วินาทีเดียว อวตาร 2 เป็นมากกว่าภาพยนตร์ แต่เป็นประสบการณ์การดูภาพยนตร์ หรือ Cinematic Experience

ที่ทุกคนต้องมาสัมผัสด้วยตัวเอง งานภาพที่สวยเหนือจินตนาการ ผสานการแสดงจริงของดารา และ เทคโนโลยี ที่เจมส์ คาเมรอน สร้างขึ้นมาเผื่อภาพยนตร์เรื่องนี้โดยเฉพาะ บทภาพยนตร์ที่สอดคล้องกับชีวิต ครอบครัว และ ความสัมพันธ์ ซึ่งผู้ชมทุกคนสามารถสัมผัสได้ ดูรีวิวจากนักวิจารณ์ ในต่างประเทศ

Avatar: The Way of Water อวตาร: วิถีแห่งสายน้ำ

ภาคต่อเรื่องราวกว่าทศวรรษของภาพยนตร์ภาคแรก บอกเล่าเรื่องราวของครอบครัวซัลลี (Sully) ซึ่งประกอบไปด้วย เจค (Jake) เนย์ทีรี (Neytiri) รวมทั้ง ลูกๆของพวกเขา ที่ต้องเจอกับปัญหาที่ตามมา การต่อสู้เพื่อเอาชีวิตรอด การปกป้องกันและกันให้ปลอดภัยจากอันตราย แล้วก็ โศกนาฎกรรม ที่พวกเขาจะต้องก้าวผ่านมันมาด้วยกัน

Avatar: The Way of Water อวตาร: วิถีแห่งสายน้ำ กำกับ และ อำนวยการสร้างโดย เจมส์ คาเมรอน (James Cameron) และ ร่วมอำนวยการสร้างโดย จอน แลนเดา (Jon Landau) แล้วก็ ร่วมแสดงโดยดาราหนังระดับตำนานอย่างคับคั่งเหมือนเคย

ไม่ว่าจะเป็น แซม เวิร์ธธิงตัน (Sam Worthington) โซอี ซัลดานา (Zoe Saldana) ซิกอร์นีย์ วีเวอร์ (Sigourney Weaver) สตีเฟน แลง (Stephen Lang) และ เคท วิทสเล็ต (Kate Winslet) บทภาพยนตร์โดย เจมส์ คาเมรอน (James Cameron) ริค แจฟฟา (Rick Jaffa) และ อแมนด้า ซิลเวอร์ (Amanda Silve)

เรื่องราวโดย เจมส์ คาเมรอน (James Cameron) ริค แจฟฟา (Rick Jaffa) อแมนด้า ซิลเวอร์ (Amanda Silve) จอร์จ ฟรีดแมน (Josh Friedman) เชน ซาเลอร์โน่ (Shane Salerno) เดวิด วัลเดส (David Valdes) และ ริชาร์ด เบนแฮม (Richard Baneham) อำนวยการสร้างของภาพยนตร์ จองตั๋ว เพื่อสัมผัสประสบการณ์สุดตระการตาแห่งแพนดอร่า ได้แล้ววันนี้
เต็มตายิ่งกว่าในระบบ 3 มิติ รับชมภาพยนตร์ที่ดีเยี่ยมที่สุดส่งท้ายปี ในโรงภาพยนตร์ เท่านั้น

นอกจากนี้ ยังได้ The Weeknd มาทำเพลงประกอบภาพยนตร์ Nothing is Lost ให้ทำให้ภาพยนตร์ครบรสมากเพิ่มขึ้น

Avatar เข้าฉาย

งานภาพ แล้วก็ ความเหมือนจริง

ของ Avatar: The Way of Water อวตาร: วิถีแห่งสายน้ำ เป็นอย่างแรกที่ทุกคนเอ่ยถึง ด้วยเทคนิค CGI ผสมผสานกับเทคโนโลยี Motion Captured ที่ยอดเยี่ยมแห่งยุคสมัย

ผสานกับเทคนิคการถ่ายภาพเคลื่อนไหวใต้น้ำ ในช่วงเวลาที่ถ่ายทำใต้น้ำนักแสดง จึงควรสวมชุด Mo-cap ที่ติดกล้องตรวจจับปฏิกิริยาบริเวณใบหน้า รวมทั้ง ท่าทาง

รวมทั้ง ทำการดำน้ำ โดยไม่สวมเครื่องที่ใช้สำหรับในการช่วยหายใจ หรือ Free Drive ข้างในแทงค์น้ำขนาดใหญ่ลึกกว่า 15 เมตร ทำให้ภาพยนตร์เรื่องนี้

นับว่าเป็นตำนานการสร้างสรรค์ด้วยเทคโนโลยีที่ล้ำที่สุดแห่งยุค เสียงพูด ท่าทาง สีหน้า แล้วก็ การเคลื่อนไหวของทุกตัวละคร คือ การแสดงจริงของนักแสดงทุกคน

ประกอบกับเนื้อเรื่องการต่อสู้เพื่อเอาชีวิตรอดของครอบครัวซัลลี (Sully) ที่ครบรสทั้งยัง สนุกสนาน ขบขัน ดราม่าหักมุม แอ็กชันสุดลุ้นระทึก และ ฉากเรียกน้ำตาสุดซึ้ง ทำให้ภาพยนตร์เรื่องนี้ ออกมาเพอร์เฟ็ค กระทั่งทุกคนบอกเป็นเสียงเดียวกันว่า รอบเดียวไม่พอ

อีกไฮไลท์สำคัญที่ทำให้ภาพยนตร์สมบูรณ์แบบ แล้วก็ ถูกยกย่องจากผู้ชมทั่วทั้งโลก คือ ความทุ่มเทของนักแสดงทุกคน ทั้งยังหน้าเก่า รวมทั้ง หน้าใหม่ ที่ถ่ายทอดอารมณ์ความรู้สึกทะลุผ่านเทคโนโลยีการถ่ายทำ ภายใต้ความท้าทายต่างๆ อาทิเช่น การถ่ายทำใต้น้ำแบบ Free Drive การจิตนาการโลกแพนดอร่าผ่านจอมอนิเตอร์ และก็ การถ่ายทอดความรู้สึกที่หนักอึ้งของบทภาพยนตร์

ทำให้ แซม เวิร์ธธิงตัน (Sam Worthington) โซอี ซัลดานา (Zoe Saldana) ซิกอร์นีย์ วีเวอร์ (Sigourney Weaver) สตีเฟน แลง (Stephen Lang) เคท วิทสเล็ต (Kate Winslet) และก็ นักแสดงทุกๆคน ได้รับคำชื่นชมไปอย่างล้นหลาม

เชิญชวนเช็คอินก่อนดูภาพยนตร์! สำหรับแฟนคลับอวตาร เพิ่มอรรถรสการดูหนังด้วยการดูใต้มหาสมุทรแพนดอร่า โดยเนรมิตห้อง Shark Walk หรือ ห้องโถงใหญ่ ที่คอยให้สาวกอวตาร และก็ แฟนโลกใต้น้ำได้ร่วมถ่ายรูป พร้อมมุมอื่นๆอีกมากมาย ไปเตรียมพร้อมกันได้ที่ Sea Life Bangkok Ocean World ชั้น B1 สยามพารากอน ตั้งแต่วันนี้ถึง 31 เดือนธันวาคมนี้

bmmf12 แม่ค้าโวย

วีนอีก! แม่ค้าโวย bmmf12 การันตี 3,000 เสิร์ฟ เอาเข้าจริงขาดทุนยับ

แม่ค้าร้านก๋วยเตี๋ยวหมูตุ๋น ช้ำใจ bmmf12 การันตี 3,000 เสิร์ฟ เอาเข้าจริงขาดทุนยับทีมงานไม่มีแจกแจงแถมไล่ออกจากกลุ่มไลน์จบลงไปแล้ว กับเทศกาลดนตรี ที่ใหญ่ที่สุด ในประเทศไทย Big Mountain Music Festival 2022 (บิ๊กเมาน์เท่น มิวสิก เฟสติวัล 2022)

ที่ปีนี้จัดขึ้นในวันที่ 10-11 ธันวาคม 2565 ที่ The Ocean เขาใหญ่ จังหวัดนครราชสีมา บอกเลยว่างานนี้มีคนเข้าร่วมราว 1 แสนคนต่อวัน แต่ก็ไม่วายมีดราม่าเข้ามาไม่หยุด และยังคงประเด็นที่ถูกพูดถึงในโลกออนไลน์อย่างต่อเนื่อง

แม้งานจะจบมาแล้วนับเป็นเวลาหลายวันที่ผ่านมา โดยยิ่งไปกว่านั้นประเด็น ของร้านค้า ร้านอาหาร ภายในงาน ที่เมื่อวานนี้ก็มีเรื่องราว ของพ่อค้าต้มเล้ง ที่ออกมารีวิวสถานที่แล้วก็ยอดจำหน่ายที่การันตีอยู่ที่ 2,500 เสิร์ฟ แต่พอเอาเข้าจริง กลับไม่เป็นไปตามที่จัดแจงของไว้ทำให้ ขาดทุน ย่อยยับ ล่าสุดโผล่อีก 1 ร้าน

ด้วยเหตุว่าผู้ใช้เฟซบุ๊ก รายหนึ่งในกลุ่ม พวกเราคือผู้บริโภค เป็นร้านค้า ที่ขายก๋วยเตี๋ยวหมูตุ๋น โดยเธอนั้นได้เข้ามารีวิวเพื่อเป็น เครื่องช่วยตัดสินใจ สำหรับคนขายที่ต้องการ ไปเปิดหน้าร้านค้าใน Big Mountain Music Festival ปีหน้า โดยระบุข้อความคร่าว ๆ ว่า

bmmf12 งานที่

จุดเริ่มการไปขายสินค้า

จุดเริ่มแรกในการตัดสินใจ ส่งร้านค้าเข้าไป เลือกใน #bmmf12 ครั้งนี้ เกิดจากส่วนตัวชอบไปงานเทศกาลดนตรีอยู่แล้ว เลยคิดว่า คงจะลองส่งเข้าไปดู ได้ก็ดี เป็นการต่อยอด ธุรกิจและก็โปรโมทร้านไปในตัว คาดหวังกำไรบางส่วน ขอเพียงแค่ไม่ขาดทุน ก็พอใจแล้ว แต่ถ้าเกิดไม่ได้ก็เข้าใจ ด้วยเหตุว่าคงมี หลายร้านส่งเข้าคัดเลือก ซึ่งเราอาจจะยังไม่เหมาะกับงาน หรือมีร้านค้าอื่นในประเภทอาหารเดียวกันที่ถูกใจทีมงานมากกว่า

จนกระทั่งวันประกาศผล ทางทีมงาน GMM food โทรมาแจ้งว่าได้รับเลือกสรร จะมีค่าใช้จ่าย 50,000 บาท เป็นค่าเช่าร้านค้า 2 วัน ค่ามัดจำอุปกรณ์อีก 5,000 บาท เท่ากับต้องจ่าย 55,000 บาท ถ้าเกิดไม่มีการเช่าโต๊ะ เก้าอี้ หรือซื้อไฟในบูทงานเพิ่ม

ตกใจกับ ราคาค่าเช่า 2 วันมากกก แต่มาคำนวณแล้ว ถ้าตัดใจคิด ซะว่าเป็นค่าการตลาดจบงานแล้วผลกำไรหน่อยเดียว หลักพัน หลักหมื่น หรือแม้แต่เท่าทุน ทางร้านค้าก็พอใจแล้ว จัดว่าไปหาประสบการณ์ออก งานใหญ่ที่สุดในประเทศ เนื่องจากได้รับบรีฟจากทางทีม GMM food ว่ามีคนเข้าร่วมงาน ประมาณ 100,000 คน บัตร 90,000 ใบขายหมดตั้งแต่วันแรก

มีร้านค้าอาหารทั้งหมด 120 ร้านค้า เฉลี่ยแต่ละร้านค้าแล้วจะได้ประมาณ 3,000 เสิร์ฟต่อวัน ย้ำว่ามีคำว่าการันตี3,000 เสิร์ฟต่อวันนะคะ ไม่ใช่ร้านค้าคิดกันเอาเอง(วันละ 3 มื้อ ไม่รวมวัน Set up งาน วันที่ 9 ที่อนุญาตให้เริ่มขายได้เลย เพราะว่ามีสตาฟเข้าไปหน้างานประมาณ 10,000 คน)

bmmf12 ใช้หนี้

นัดประชุมครั้งแรก bmmf12

พอจ่ายเงินทำสัญญาจบ ก็ถึงวันนัดประชุมร้านค้า ตอนแรกนัดประชุมกันทาง Zoom แต่แปลกใจว่า ทางทีม GMM food ไม่เคยทำงานสเกลใหญ่ หรืออะไร ถึงไม่รู้ล่วงหน้าว่า Zoom meeting จะเข้าร่วมได้เพียงแค่ 100 คน ซึ่งถ้าบอกว่ามี 120 ร้านค้าในงาน เพียงเท่านี้คนก็เกินแล้ว ไม่ถือว่าแต่ละร้านค้าอาจจะมีคนเข้าร่วม มากกว่า 1 คน กว่าจะได้เริ่มประชุม ก็เสียเวลาโยกไป Google Meet ซึ่งก็ติดปัญหาคน เข้าได้ไม่ครบอีก ระบบเสียงกระท่อนกระแท่น ฟังไม่ค่อยทราบเรื่อง แต่ทางร้านค้าก็พยายามเข้าใจ เลยรออ่าน Powerpoint ที่ present ทีหลังเอาทีเดียวดีกว่า

จบจาก การประชุม มีให้ข้อมูลเพิ่มเติมว่า จากคนเข้าร่วมงาน 90,000++ เป็น 110,000++ ไม่รวมทีมงาน, ศิลปิน, บัตรผู้ช่วยเหลือต่าง ๆ ทำให้ทางร้านค้าต้องเตรียมความพร้อมยิ่งกว่าเดิม จากที่หวังไว้ เพียงแค่ร้านค้าเราขอเอาที่1,500 เสิร์ฟต่อวันก็พอใจแล้ว เลยเพิ่มเป็น 2,500 เสิร์ฟต่อวันแทน ต้องรีบไล่ สั่งของ ซื้อของ ตระเตรียมของไปออกงาน ให้พร้อมที่สุด ไม่ต้องการให้งานเสีย

ไม่ต้องการให้เค้าว่าได้ว่าพวกเราไม่พร้อม เนื่องจากว่าเค้าย้ำ แล้วย้ำอีกว่า ทำได้แน่ใช่มั้ย มีทีมงานทำ 3,000 เสิร์ฟต่อวันได้รึเปล่า ถึงพวกเราไม่มีหน้าร้านค้าก็จริง แต่ก็เคยมีประสบการณ์รับออกงานนอกสถานที่อยู่เสมอ ๆ มีความคิดว่าจัดเตรียมเกินไปดีทีสุด ดีมากกว่าไปขาดหน้างาน จากที่จัดเตรียม จ้างรถกระบะขนย้ายไปงานไว้ คันเดียว ก็ต้องเพิ่มเป็น 2 คัน

เพราะไม่สามารถ หารถ 6 ล้อได้ทันในเวลากระชั้นชิด สรุปงาน 2 วันลงทุนไป 300,000++ มีความรู้สึกว่าหากมีของเหลือ กลับมาบ้างก็เก็บไว้ขายต่อได้ ด้วยเหตุว่ามีลูกค้าประจำอยู่แล้ว แต่ถึงเวลาขนของกลับจริงมันมากกว่าที่คิดไว้หลาย เท่าตัว จนกระทั่งต้องไปเช่าห้องเย็นเพื่อฝากแช่ของไว้ต่อค่ะ

bmmf12 ต่อแถว

ปรับเปลี่ยนพื้นที่ก่อนถึงวันงาน

พอใกล้วันงานมี การส่งผังร้านค้ามาใหม่ มีการเปลี่ยนแปลงพื้นที่ เข้าไปภายในลึกเข้าไปใกล้เวทีใหญ่ ให้เหตุผลว่าก่อนหน้านั้นมี ฝนตกหนัก ทำให้บางพื้นที่เสียหาย ใช้ไม่ได้ เลยต้องปรับเปลี่ยน นี้เข้าใจรวมทั้งเห็นว่าเหตุผลพอยอมรับฟังได้ค่ะ แต่คิดอีกที ก็เอ๊ะว่าแทนที่จะเลื่อนเข้าไปข้างใน เพราะเหตุไรไม่เลื่อน ออกมาข้างนอก เพื่อลูกค้าเข้าถึงง่าย เจอร้านค้าได้เร็วขึ้น แต่ตอนนี้เข้าใจแล้วค่ะว่าเพราะเหตุไรทำแบบนั้นไม่ได้ ก็เนื่องจากว่ามันจะไปแย่งลูกค้าของสปอนเซอร์

พอถึงวัน set up งาน (วันที่ 9) ทางร้านค้าสั่งน้ำกิน ประกอบอาหารไป 15 ถัง กะว่าจะได้เริ่มขาย คนในพื้นที่งานก่อน สรุปตามน้ำถึงเที่ยงคืน น้ำไม่มาส่งค่ะ สาเหตุมาจากรถขนส่ง ของทางโรงงานน้ำเข้าพื้นที่ไม่ได้ เนื่องจากว่าส่งเสร็จรอบนึง ออกไปรับของมาใหม่แล้วการ์ดไม่ให้เข้า อีกรอบ ทำให้หลาย ๆ ร้านค้าไม่ได้รับของตามที่สั่งไว้
พอถึงวันงาน จากตอนแรกที่ประชุมร้านค้า แจ้งว่าให้นำรถเข้าโหลดของในพื้นที่ได้ช่วงเวลา 6.00-8.00 พอถึงเวลาจริงแจ้งว่า ไม่อนุญาตให้นำรถยนต์เข้าพื้นที่แล้ว จะขนของต้องใช้รถเข็นหรือแบกเข้างานเอง ซึ่งพื้นที่งานเป็นหลุม แอ่งน้ำ รอยล้อรถบลา ๆ ไม่ได้เอื้ออำนวยกับการ ใช้รถเข็นเลยค่ะ ทางร้านถือว่าโชคดีอยู่บ้างที่อยู่ใกล้ประตูเข้าออก (ร้านที่ 4 จากประตู)

แต่ทางผู้จัดได้คิดถึงร้านอื่น ๆ ที่อยู่ไกลออกไปบ้างมั้ยคะ ที่ไม่อนุญาตให้นำรถของ ร้านค้าเข้าพื้นที่ถือว่าแย่แล้ว แต่ไม่มากเท่ากับไม่อนุญาตให้รถน้ำกิน กับรถน้ำแข็งเข้าพื้นที่ด้วยค่ะ น้ำ 20 ลิตร 1,000 ถัง ทางผู้จัดให้โรงงานน้ำนำใส่รถเข็นส่งร้านค้าที่อยู่ ห่างกันมากกก ถึงมากที่สุด

รถเข็นใส่ได้รอบละ 10 ถัง เท่ากับต้องเข็นรถอย่างต่ำ 100 รอบ ไม่ถือว่าบางร้านค้าสั่งใส่ เติมภาชนะที่นำมาเพิ่มด้วย สรุปคืนวันนั้นรถเข็นโรงงานน้ำกินยางแตก งานวันที่ 2 ไม่มีน้ำส่งให้ร้านค้า

ทีมงานยังไม่มีการ อำนวยความสะดวกใด ๆ ก็ตามให้ทั้งสิ้น ต้องให้ร้านค้ามาเข็นรวมทั้งยกน้ำ 20 ลิตร ผ่านคนเข้าชมคอนเสิร์ตหลักแสนคน ที่บางจุดแทบไม่มีที่หลบให้เดิน แล้วต้องเดินไปกลับ เนื่องจากว่าต้องนำถังใส่น้ำมาคืน ให้ร้านค้าที่ซื้อต่อไปอีก

ไม่ได้มีเท่านั้น จุดซักล้างน้ำไหล บ้างไม่ไหลบ้าง จะล้างของก็ลำบาก ขยะในงาน แจ้งว่าจะมีเจ้าหน้าที่มาเก็บ สรุปจนวันสุดท้ายที่เก็บของกลับถุงขยะยังกองอยู่หลังร้าน ไม่มีคนมาเก็บไปเลย

ทีมงาน bmmf12 ไม่ชี้แจง

จุดอับที่สุดอยู่ที่ S1-12 ต้องยกนิ้วให้ร้าน ที่ไม่ขาดทุนเลยค่ะ จุดตั้งร้านค้าแยกฉีกออกไปจากเวที ไฟดับ ๆ ติด ๆ แถมมีน้ำห้องน้ำไหลมาบ้าง นั่งดูยังมองเห็นใจร้านค้าด้วยกันเลย สรุปพอจบงาน หลาย ๆ ท่านก็พูดคุยกันในไลน์กลุ่ม อาจจะมีใส่อารมณ์ใส่ผู้จัดบ้าง แต่ก็เข้าใจเกี่ยวกับประสบการณ์แย่ ๆ แบบนี้

เหนื่อยใจเรื่องการจัดการไม่พอ ยังต้องเหนื่อยกาย แล้วขาดทุนเสียหายอีก มันก็คงมีอารมณ์เป็นธรรมดา ถึงสอบถามหาความรับผิดถูกใจจากทีมงาน เพราะเหตุว่าตอน บรีฟแจ้งย้ำแล้วย้ำอีกว่า “การันตี” วันละ 3,000 เสิร์ฟ ส่วนตัวมีความคิดว่าจะรอพักให้หายเหนื่อย แล้วรอทีม GMM food แจกแจง เผื่อจะมีข้อชี้แนะ

แสดงความนึกเห็น หรือข้อตกลงด้วยกันให้กับทั้ง 2 ฝ่าย สรุปเปิดมาอีกที 4 ทุ่มทีม GMM food ไล่ลบทุกคนออกจากกลุ่มไลน์ ร้านค้าโซนสามย่าน โดยไม่มีการแจกแจงใด ๆ ก็ตาม ต้องขอตบมือรวมทั้งยกนิ้ว ให้กับทีมงาน GMM food จริง ๆ

กลัฟ คณาวุฒิ งานต่างๆ

“กลัฟ คณาวุฒิ” เข้าวงการ 4 ปี ยังต้องพัฒนาฝีมือ ขอเป็นตัวเองเพื่อรักษาความนิยม

ขึ้นแท่นเป็นหนุ่มฮอต แล้วก็ว่าได้ สำหรับพระเอกหนุ่ม กลัฟ คณาวุฒิ ไตรพิพัฒนพงษ์ ที่เวลานี้ มีผลงานทั้งภาพยนตร์ บัวผันฟันยับ ประกบนางเอกเบอร์หนึ่ง แอน ทองประสม แล้วก็ ยังมีผลงานละคร มัดหัวใจยัยซุปตาร์ ประกบนางเอกมากความสามารถ เจนี่ เทียนโพธิ์สุวรรณ กำลังออกอากาศทางช่อง 3HD ซึ่งเรื่องราวกำลังสนุกสนานเข้มข้นเลยทีเดียว

มีโอกาสได้พูดคุยกับพระเอกหนุ่ม จึงถามความรู้สึก หลังได้ร่วมงานกับ 2 นางเอกระดับท็อปของวงการ พร้อมกับ มุมมองสำหรับการกว่า 4 ปี รู้สึกว่า ตนเองประสบความสำเร็จแล้วหรือยัง

กลัฟ คณาวุฒิ หนังบัวผัน

ภาพยนตร์เข้าโรงแล้ว ละครก็จะออนแอร์แล้ว รู้สึกกดดันมั้ย ?

“ก็รู้สึกกดดันครับผม ด้วยเหตุว่า ภายหลังจากออนไปแล้ว พวกเราก็ต้องดูฟีดแบ็กด้วยว่า คนที่ตัดสินการแสดงของพวกเรา ก็คือ คนดู ถ้าเกิดคนดูฟีดแบ็กโอเค ทุกๆอย่างโอเค ก็รู้สึกโล่งไปเปลาะหนึ่ง แต่ว่าพวกเราก็ต้องไปนั่งเรียนรู้อีกว่า ที่พวกเราทำไปทั้งหมดเนี่ย มันยังมีบกพร่องตรงจุดไหนอยู่บ้าง พวกเราก็ต้องมานั่งปรับปรุง”

ลองนั่งมองผลงานตนเองที่ไม่ใช่ซีรีส์วาย ให้คะแนนผลงานตนเองเท่าไหร่ ?

“เอาภาพยนตร์ บัวผันฟันยับ ก่อนครับผม ในด้านคอมเมดี้ อาจจะสัก 7 คะแนนแล้วกัน ยังต้องพัฒนาอีกออกจะมาก ด้วยเหตุว่า ในนั้นก็จะอุดมไปด้วยคนที่มีเซ้นส์ตลกออกจะมาก พวกเราต้องไปพัฒนาตนเอง จะได้ทันพวกพี่เขาครับ”

คอมเมนต์ด้านบวกก็โอเค แล้วคอมเมน์ต์ด้านลบล่ะ ?

“ด้านลบก็มีครับ ผมก็เห็น มันก็เข้าใจนะ ด้วยเหตุว่า หลายๆคนที่เขามีความคิดหรือว่าอะไรพวกนี้ มันต่างกันอยู่แล้ว เขาก็บางครั้งก็อาจจะไม่ได้ชอบแนวนี้ หรือ บางครั้งก็อาจจะมีความรู้สึกว่า มุกมันฝืด บางทีมุกฝืดสำหรับเขา บางครั้งก็อาจจะฮามากสำหรับคนอื่นก็ได้”

คอมเมนต์ด้านลบที่เราเอามาคิดต่อยอดได้ ?

“มีเรื่องของคอมเมดี้นี่แหละครับ ที่พวกเราเห็นฟีดแบ็กมานะ ที่เกี่ยวกับตัวเราก็จะเป็นเรื่องคอมเมดี้ ที่บางครั้งก็อาจจะยังไม่ได้กลมกลืนกับพวกพี่มากสักเท่าไหร่ ส่วนนี้พวกเราก็ต้องไปปรับปรุง”

แสดงว่าเราเครียดมากกับการเล่นคอมเมดี้ ?

“แรกๆก็เครียดครับ ด้วยเหตุว่า ผมกลัวเล่นแล้วมันจะไม่ฮา ด้วยเหตุว่า ถ้าเกิดคอมเมดี้เล่นไม่ฮา ก็ไม่ใช่คอมเมดี้ครับ เราก็พยายามอยากให้ทุกคนดูแล้วได้รับความสนุกครับ”

เราเล่นเองไม่ฮา ก็ยิ่งเครียดหนักเข้าไปอีก ?

“เล่นเองมันก็ฮาแหละ แต่ว่าไม่ทราบว่า คนที่เราเล่น เขาจะฮากับมุกเราหรือไม่ อีกอย่างหนึ่ง คือ เรื่องจังหวะ อันนี้ก็เป็นเรื่องที่สำคัญมากๆ สำหรับการเล่นคอมเมดี้ ผมรู้สึกว่า ถ้าเกิดจังหวะไม่ดี ต่อให้มุกมันฮาแค่ไหน ยังไงก็ไม่ฮา”

เรามองว่าตนเองเป็นคนตลกไหม ?

“ก็เป็นคนกวนตีนแล้วกันครับ(หัวเราะ) ผมก็มีเล่นมุกบ้าง แต่ว่าจะเป็นเล่นกับเพื่อนซะส่วนมาก”

จริงๆกลัฟถนัดแนวไหน ?

“ถนัดแนวแซวเล่นขำๆ แต่ว่าให้เล่นมุกเป็นตับๆเลยไม่ได้ครับ เราทำจังหวะให้เหมือนพี่ๆเขาที่เล่นตลกไม่ได้ ถามว่ามีหลุดบ้างมั้ย ตอนเล่นก็มีหลุดบ้าง ด้วยเหตุว่า อย่าง พี่ฮาย อาภาพร ซึ่งพี่ฮายแทบจะไม่ต้องทำอะไรเลย เขาแค่นั่งอยู่เฉยๆ แล้วพูดอะไรของแกไปเรื่อยเปื่อย แค่นั้น ก็ฮาแล้วครับ แทบจะไม่ต้องพยายามอะไรเลย”

นับว่าเป็นภาพยนตร์ปราบเซียน ด้วยเหตุว่า รุ่นพี่แต่ละคอมเมดี้จ๋ามาก ?

“ใช่ครับ แล้วผมต้องเจอพี่ฮายหลายครั้ง เจอทุกซีนเลย ด้วยเหตุว่า ในเรื่องเขาเล่นเป็นแม่ เรา ก็ต้องเจอเขาหลายครั้ง จะพูดอะไรก็ฮา แม้กระทั่งพูดเป็นจริงเป็นจัง ก็ฮา เขาพร้อมนอกบทกันตลอดเวลา อีกทั้งพี่ก๊อตจิ แล้วก็ พี่จ๊ะด้วย คือ 3 คนนี้ พร้อมจะไหลไปเรื่อยๆ มีแต่ผมกับพี่แอน ทองประสม นั่งมองดูกันอยู่สองคนในซีน ด้วยเหตุว่า พวกเราเบบี๋กันมากเลย ในเรื่องคอมเมดี้”

อีกทั้งภาพยนตร์ แล้วก็ ละคร สองเรื่องนี้ เราได้เก็บเกี่ยวการแสดงยังไงมาบ้าง ?

“มากเลยครับ สำหรับเรื่องภาพยนตร์ ถ้าเกิดพูดตรงไปตรงมา บางครั้งก็อาจจะไม่ได้มากเท่าละคร ด้วยเหตุว่า ด้วยความมันเป็นคอมเมดี้เนอะ บางครั้งก็อาจจะยังไม่ได้ต้องจริงจังมาก หรือว่าลงดีเทลเยอะแยะขนาดนั้น
แต่ว่าพอในส่วนของละคร เราเรียนรู้ออกจะมาก หลายเรื่องเลยครับ ทั้งพวกดราม่า ซึ่งเรา ก็ไม่ได้ถนัด ไม่ได้เก่งพวกนี้ มาตั้งแต่ตอนแรก เราก็ได้พี่เจนี่ คอยช่วย คอยบิ้ว คอยดึง ให้เราเข้าไปอยู่ในเหตุการณ์นั้นให้ได้”

ผลงานทั้งสองเรื่องนี้ ได้ร่วมงานกับดาราตัวแม่ทั้งนั้นเลย ?

“ใช่ครับ ของพี่แอนก็จะได้เห็นเกี่ยวกับเรื่องของวินัย เกี่ยวกับวิธีทำงาน หรือว่า วิธีทำการบ้าน อะไรพวกนี้ เราก็นั่งเก็บรายละเอียดมา ถามว่า เขาชวนไปวิ่งออกกำลังกายด้วยมั้ย ก็ชวนอยู่ครับ แต่ว่าพวกเราก็บอกพี่เขาว่า ขอนอนก่อนครับผม พี่เขาไม่ว่าๆ พี่แอนน่ารักครับ พี่แอนไม่เคยดุเลย พี่เจนก็ไม่ดุนะ พี่เจนก็น่ารัก(หัวเราะ) เป็นคนตั้งใจทั้งคู่ อีกทั้งพี่แอน แล้วก็ พี่เจนี่เลย”

เวลานี้ กลัฟงานแน่นตลอดเหมือนเดิมใช่มั้ย ?

“ก็แน่นครับผม มาเรื่อยๆ เดี๋ยวมีคิวไปยังต่างประเทศเดือนมกราคม น่าจะไปเกาหลีครับ”

กลัฟ คณาวุฒิ เจนี่

กลัฟ คณาวุฒิ ตารางงานแน่นจะหาเวลาพักผ่อนมั้ย ?

“ระยะนี้ ก็บางครั้งก็อาจจะยังไม่ได้พัก แต่ว่าพักหลังจากนี้ ก็จะเป็นช่วงเทศกาล ช่วงปีใหม่ อาจจะเป็นไปได้ว่าจะมีได้พักบ้าง ถามว่า คิดอยากลาพักร้อนสัก 10 วันมั้ย ยังไม่ได้คิดเลยครับ ถึงขนาด 10 วัน ยังไม่ได้คิด แต่ว่า 2-3 วัน ก็มีคุยกับที่บ้าน กับเพื่อนๆบ้างครับ”

ปีใหม่นี้ คือ ไม่รับงานเลยใช่มั้ย ?

“คิดว่า ครับ คิดว่า ไม่รับ แต่ว่าก็ไม่แน่(หัวเราะ) ก็มีติดต่อมาบ้าง แต่ว่าเราก็ยังชั่งใจอยู่ว่าจะยังไงดี อยากพักดีมั้ย ด้วยเหตุว่า ทั้งปีตลอดมา เราก็ทำงานมาตลอด”

ถ้าเกิดมองดูในมุมความสำเร็จ กลัฟ รู้สึกว่า ตนเองมาเร็วมั้ย ?

“ถามว่า เร็วมั้ย ก็เร็วครับผม นับว่าออกจะเร็วเลย แต่ว่าถามว่าประสบความสำเร็จหรือยัง ก็แค่ในระดับนึง แต่ว่าก็ยังไม่ถึงขั้นประสบความสำเร็จในสายอาชีพนี้เลย ยังต้องพัฒนาอีกมากเลยครับ”

กลัฟ จะดูแลทั้งชื่อเสียงความนิยมชมชอบ ที่มีคนรักมากๆแบบนี้ไว้ยังไง ?

“เรา ก็เชื่อมั่นในตัวเองนี่แหละครับ ผมว่าสิ่งที่สำคัญที่สุดเลย คือ สม่ำเสมอครับ ด้วยเหตุว่า ถ้าเกิดเราสม่ำเสมอกับทุกคน กับพี่แฟนคลับทุกคน เราเป็นยังไง ก็เป็นอย่างนั้น ยังไงพี่ๆแฟนคลับ เขาไม่มีทางทิ้งเราอยู่แล้ว ยังไงเขาก็รักเราอยู่แล้ว เราให้ใจเขา ก็ให้ใจเราเหมือนกัน ใจแลกใจครับ”

กลัฟเข้าวงการบันเทิงมากี่ปี ?

“เข้ามาปีที่ 4 ก็ประสบความสำเร็จในระดับนึง ถามว่า มีเป้าหมายอะไรที่ต้องการจะทำอีกมั้ย ในตอนนี้ยังไม่ได้มีเป้าหมายอะไรที่เป็นชิ้นใหญ่อะไรขนาดนั้น จริงๆเราแค่อยากทำงานในวงการเรื่อยๆ ทำให้ครบทุกบทบาทแค่นั้น ณ ตอนนี้ครับผม พรุ่งนี้ อาจจะเป็นไปได้ว่าจะมีเป้าหมายใหม่ก็ได้ครับ”

อีลอน มัสก์ รูปที่1

“อีลอน มัสก์” เสียแชมป์บุคคลร่ำรวยที่สุดในโลก ให้เจ้าของหลุยส์ วิตตอง

อีลอน มัสก์ เจ้าของTwitterและซีอีโอTesla ถูกโค่นตำแหน่งบุคคลที่ร่ำรวยที่สุดในโลก เมื่อวันพุธ อ้างอิงจากการจัดอันดับของนิตยสารฟอร์บส จากมูลค่าหุ้นTeslaที่ร่วงลงอย่างมาก และมหากาพย์ดีล Twitter 44,000 ล้านดอลลาร์

อีลอน มัสก์ รูปที่2

อีลอน มัสก์ เสียแชมป์ให้กับ เบอร์นาร์ด อาร์โนลด์

สำนักข่าวรอยเตอร์อ้างอิงจากรายงานของนิตยสารฟอร์บส ที่ได้ระบุว่า อีลอน มัสก์ เสียแชมป์ไปชั่วคราวในวันพุธให้กับเบอร์นาร์ด อาร์โนลด์ วัย 73 ปี ซีอีโอของ LVMH ผู้ผลิตสินค้าแบรนด์หรูอย่าง Louis Vuitton, Christian Dior และ Givenchy และยังเป็นเจ้าของร้านขายเครื่องสำอางค์ Sephora ที่มีมูลค่าทรัพย์สิน 184,700 ล้านดอลลาร์

เขา ช่วงชิงตำแหน่งนี้มาจากเจฟฟ์ เบโซส ผู้ก่อตั้งAmazon และครอบครองตำแหน่งบุคคลที่ร่ำรวยที่สุดในโลก ตามการจัดอันดับของฟอร์บส มาตั้งแต่เดือนกันยายนปีก่อน ซึ่งมีทรัพย์สินมูลค่า 185,400 ล้านดอลลาร์ ตามข้อมูลของฟอร์บส
ใน ช่วงบ่ายวันพุธ

มูลค่าทรัพย์สินสุทธิของเขา ลดลงต่ำกว่า 200,000 ล้านดอลลาร์ในวันพุธ ภายหลังจากที่ผู้ลงทุนเทขายหุ้นเทสลา จากความกังวลว่าผู้บริหารและผู้ถือหุ้นใหญ่ของบริษัทรถยนต์ขับเคลื่อนด้วยพลังงานไฟฟ้ารายนี้จะทุ่มเทให้กับTwitterมากขึ้นกว่าแต่ก่อน

นอกจากTeslaแล้ว เขายังได้บริหารบริษัทเทคโนโลยีอวกาศ SpaceX และนิวรัลลิงค์ สตาร์ทอัพที่พัฒนาชิปฝังใส่สมองซึ่งจะเชื่อมต่อสมองมนุษย์กับระบบคอมพิวเตอร์อีกด้วย

อีลอน มัสก์ รูปที่3

เปิดประวัติ “อีลอน มัสก์”

อีลอน รีฟ มัสก์ เกิดเมื่อวันที่ 28 มิถุนายน 1971 ที่กรุงพริทอเรีย 1ใน3เมืองหลวงของประเทศแอฟริกาใต้ ในครอบครัวที่มีพ่อเป็นวิศวกรชาวแอฟริกาใต้ และแม่เป็นนางแบบและนักโภชนาการที่มีเชื้อสายแคนาดา เขามีน้องชาย 1 คน และน้องสาว 1 คน

ช่วงวัยเด็ก เขามีความสนใจและมีพรสวรรค์ในเรื่องของคอมพิวเตอร์และวิดีโอเกมส์ จนเมื่ออายุได้ 12 ปี เขาก็ลงมือเขียนโค้ดวิดีโอเกม สร้างชื่อเสียงให้กับตัวเอง ต่อมาเขาได้เข้าเรียนที่มหาวิทยาลัยพริทอเรียเป็นระยะเวลาสั้นๆ ก่อนจะย้ายไปอยู่แคนาดาเมื่ออายุ 17 ปี เพื่อเลี่ยงการเกณฑ์ทหาร โดยเข้าเรียนที่มหาวิทยาลัยควีนส์ ในรัฐออนแทรีโอของแคนาดา 2 ปีต่อมาจึงได้ย้ายไปมหาวิทยาลัยเพนซิลเวเนีย ประเทศสหรัฐอเมริกา เขาเรียนจบปริญญาด้านด้านเศรษฐศาสตร์และฟิสิกส์ ก่อนจะย้ายไปอยู่รัฐแคลิฟอร์เนียในปี 1995 เพื่อเข้าศึกษาต่อที่มหาวิทยาลัยสแตนฟอร์ด แต่สุดท้ายเขาเลือกที่จะทุ่มให้กับธุรกิจของเขามากกว่า

เขาเป็นผู้ก่อตั้ง บริษัทหลายแห่ง ตั้งแต่บริษัทเว็บซอฟต์แวร์ “ซิป2” ร่วมกับน้องชาย ก่อตั้งธนาคารออนไลน์ “เอ็กซ์ดอทคอม” ซึ่งได้ถูกรวมกิจการกับบริษัทคอนฟินิตี และก็กลายเป็นบริษัทPayPalในปัจจุบัน ต่อมาในช่วงปี 2002 เขาก่อตั้งบริษัทSpaceX บริษัทผู้ผลิตยานอวกาศและผู้ให้บริการขนส่งทางอวกาศ และในปี 2004 ได้ก่อตั้งและร่วมลงทุนในบริษัทTeslaซึ่งได้ขึ้นดำรงตำแหน่งซีอีโอ ในปี 2008 นอกจากTeslaบริษัทดังกล่าว เขายังก่อตั้งบริษัทโซลาซิตี้ โอเพ่นเอไอ นิวรัลลิงก์ และบอริ่งคอมพานี นอกเหนือจากนี้ยังเป็นผู้เสนอแนวคิดเรื่องไฮเปอร์ลูป ระบบการเดินทางด้วยความเร็วสูงผ่านท่อสุญญากาศอีกด้วย

อีลอน มัสก์ รูปที่4

จุดเริ่มธุรกิจของ อีลอนมัสก์

เขาย้ายไปอยู่แคนาดาตอนอายุ 17 ปี โดยได้รับสัญชาติแคนาดาผ่านทางแม่ เข้าเรียนที่มหาวิทยาลัยควีนส์ ในเมืองคิงสตัน ที่ซึ่งเขาได้พบกับ จัสติน วิลสัน ภรรยาคนแรกของเขา โดยทั้ง2แต่งงานและมีลูกชายถึง 5 คน เป็นแฝด 2 และแฝด 3 ก่อนจะหย่ากันในปี 2008

ภายหลังจากเรียนที่มหาวิทยาลัยควีนส์ได้ 2 ปี เขาก็ย้ายไปเรียนที่มหาวิทยาลัยเพนซิลเวเนียในสหรัฐฯ เลือกวิชาเอก 2 ตัว แต่เขาไม่ได้เรียนอย่างเดียว เขากับเพื่อนนักศึกษาอีกคน ซื้อหอพักขนาด 10 ห้องนอนและใช้เป็นเหมือนไนต์คลับส่วนตัว ก่อนที่เขาจะเรียนจบปริญญาตรีสาขาวิทยาศาสตร์เอกฟิสิกส์ และสาขาศิลปศาสตร์เอกเศรษฐกิจจากโรงเรียน วาร์ตัน

พออายุ 24 ปี เขาก็ย้ายไปแคนาดาเพื่อเรียนต่อปริญญาเอกที่มหาวิทยาลัยสแตนฟอร์ด แต่เนื่องจากยุคนั้นเป็นช่วงที่อินเทอร์เน็ตเฟื่องฟูขึ้นมาและซิลิคอนวัลเลย์กำลังบูม ทำให้วิสัยทัศน์ในฐานะนักธุรกิจของมัสก์พรั่งพรู จนทำให้เขาล้มเลิกเรื่องการต่อปริญญาเอกทันที หลังสมัครได้เพียง 2 วัน

อีลอน มัสก์ รูปที่5

มหากาพย์การ take over Twitter

เขาถือเป็นผู้ใช้งานเว็บไซต์Twitterตัวยง ก่อนจะมีการเปิดเผยในเดือนเม.ย.ที่ผ่านมาว่า เขาถือหุ้นTwitterถึง 9.2% ทำให้คณะกรรมการของทวิตเตอร์เสนอตำแหน่งในบอร์ดบริหารแก่เขา ซึ่งเขารับก่อนจะปฏิเสธภายในไม่กี่วันต่อมา หลังจากนั้น เขาก็ส่งจดหมายถึงบอร์ดบริหารของTwitter เสนอที่จะซื้อบริษัทในราคา 54.20 ดอลลาร์สหรัฐฯ ต่อหุ้น

นั่นคือจุดเริ่มของมหากาพย์การซื้อTwitterของเขา โดยในตอนแรกบอร์ดของTwitter ไม่ต้องการที่จะขาย และใช้กลยุทธ์วางยาพิษ (poison pill) ด้วยการอนุญาตให้ผู้ถือหุ้นเดิม สามารถซื้อหุ้นออกใหม่ในราคาที่ถูกลง เพื่อลดการถือครองของนักลงทุนรายใหม่ และเพื่อไม่ให้เขาถือครองหุ้นมากขึ้นกว่าเดิม แต่สุดท้ายTwitterก็ได้ตกลงขายบริษัทภายใต้ข้อตกลงมูลค่า 4.4 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ

แต่ทว่าในเดือนกรกฎาคม 2022 เขากลับพยายามถอนตัวออกจากข้อตกลงดังกล่าว เขาอ้างว่าTwitterล้มเหลวในการให้ข้อมูลเกี่ยวกับบัญชีผู้ใช้ปลอมและสแปมในระบบ ทำให้Twitterยื่นฟ้องร้องมหาเศรษฐีรายนี้ เพื่อบังคับให้เขาทำข้อตกลงให้แล้วเสร็จ หลังจากนั้นทั้งคู่ฝ่ายก็ต่อสู้กันทางกฎหมายเรื่อยมา

กระทั่งในวันที่ 3 ต.ค. 2022 เขาก็กลับลำอีกครั้ง โดยบอกว่าเขาจะซื้อTwitterในราคาที่เขาเสนอไปในตอนแรกคือ 54.20 ดอลลาร์สหรัฐฯ ต่อหุ้น หากผู้ให้บริการเครือข่ายสังคมออนไลน์เจ้านี้ยอมถอนฟ้อง ต่อจากนั้นในวันที่ 26 ต.ค. เขาไปยังสำนักงานใหญ่ของTwitterที่ซาน ฟรานซิสโก พร้อมกับแบกซิงก์ล้างหน้า และเปลี่ยนข้อมูลประวัติบนหน้าTwitterของตัวเองใหม่ โดยใช้คำว่า “Chief Twit”
ก่อนจะปิดดีลซื้อขายในวันต่อมา ได้เป็นเจ้าของTwitterอย่างเป็นทางการ

อีลอน มัสก์ รูปที่6

Tesla กับ SpaceX

อีลอน มัสก์ เข้ามาส่วนร่วมธุรกิจกับ Tesla ซึ่งตอนนั้นยังใช้ชื่อ Tesla Motor ในฐานะนักลงทุนแรกเริ่มเมื่อปี 2004 โดยสนับสนุนเงินทุกจำนวน 6.3 ล้านดอลลาร์สหรัฐ และเข้าร่วมทีมบริหารบริษัทร่วมกับนาย มาร์ติน เอเบอร์ฮาร์ด ผู้รับตำแหน่งซีอีโอ อย่างไรก็ตาม เกิดความไม่ลงรอยกันหลายอย่างในบริษัท ทำให้นายเอเบอร์ฮาร์ดถูกถอดจากตำแหน่งในปี 2007 ก่อนที่เขาจะรับตำแหน่งซีอีโอ กับฝ่ายสถาปัตยกรรมผลิตภัณฑ์ และทำให้ Tesla กลายเป็นผู้ผลิตรถยนต์ที่มีมูลค่ามากที่สุดในโลก

อีลอน มัสก์ รูปที่7

ขณะเดียวกัน เขาได้ใช้เงินส่วนใหญ่ที่ได้จากเงิน 180 ล้านดอลลาร์ที่ได้จากการขายหุ้น PayPal ในการก่อตั้งบริษัท เทคโนโลยีการสำรวจอวกาศ (Space Exploration Technologies Corporation) ซึ่งรู้จักกันทั่วไปในชื่อ SpaceX ในปี 2002 และปัจจุบันก็กลายเป็นผู้ผลิตจรวดนำส่งรายใหญ่ของโลก ได้ทำสัญญาณขนส่งกับองค์การNASA และเขาวางแผนจะส่งนักบินอวกาศไปยังดาวอังคารให้ได้ภายในปี 2025 ด้วยความร่วมมือกับNASA

อีลอน มัสก์ รูปที่8

Dragon Ball Super เปิดตัว

เปิดตัว Dragonball Super Card Game กำลังจะมาปี 2023

Bandai Namco บริษัทเกมชั้นนำของญี่ปุ่นเป็นเจ้าพ่อเกมอนิเมะได้มีการประกาศเปิดตัว Dragon ball Super Card Game แล้วได้ยืนยันอย่างแน่นอนว่าจะพร้อมเปิดให้บริการในปี 2023

โดยจะมีการเปิดเผยรายละเอียดเพิ่มเติมในงาน Dragonball Games Battle Hour 2023 ในเดือนมีนาคมที่ใกล้จะถึงนี้เป็นเวอร์ชั่นสำหรับดิจิทัล เหมือนกับซีรี่ส์ Magic: The Gathering และ Pokemon ที่มีการต่อยอดเป็นเกมการ์ดบนออนไลน์ แน่นอนว่าทาง บันไดก็มาพร้อมกับตัวอย่างของเกมให้รับชมกันด้วย

Dragon Ball Super ดราก้อนบอล

ตัวอย่างของ Dragon ball Super Card Game

ตัวอย่างที่ Bandai Namco จะปล่อยออกมานั้นแสดงให้เห็นถึงการ์ดและแพ็กต่างๆ ภายในเกม Dragonball Super Card Game จะมีการ์ดต่างๆ ที่บินอยู่รอบๆ ให้เห็นกันแต่จุดหลักที่โฟกัสกันเป็นพิเศษก็คือ Goku พระเอกของเราที่มีการปล่อยโมเดลตัวละครออกมาให้เห็นกัน ส่วนรายละเอียดถ้ามีอะไรเพิ่มเติมทางเราจะรีบมาอัปเดตให้ทราบกันอีกที

 

Dragon Ball Super ศูนย์

ประวัติบริษัท Bandai Namco

เกิดมาจากการควบรวมธุรกิจของ2บริษัทญี่ปุ่นคือ Bandai กับ Namco สำหรับในฝั่งของ Bandai ได้ก่อตั้งเมื่อปี 1947 โดย นาโอฮารุ ยามาชินะ ทหารผ่านศึกตาพิการที่ทำงานในบริษัทค้าส่งผ้าของพี่เขย ซึ่งทำให้ในช่วงแรกเป็นธุรกิจหนึ่งของบริษัทค้าส่งผ้าเท่านั้น แต่ในเวลาต่อมา ยามาชินะ ขอแยกมาตั้งบริษัทเองเต็มตัว

เพราะเชื่อว่าของเล่นเป็นธุรกิจมีอนาคต หลังจากญี่ปุ่นฟื้นจากสงครามโลกครั้งที่2 และคนในประเทศคงก็เริ่มมีกำลังซื้อพอที่จะซื้อของเล่นให้ลูกให้หลานบ้างแล้ว ต่อมาระหว่างยุค 60 และ 70 Bandai เจริญก้าวหน้าขึ้นตามลำดับ ด้วยสินค้าลิขสิทธิ์ของการ์ตูน และภาพยนตร์ชุดทาง ทีวีของญี่ปุ่น ได้แก่ Astro Boy และ Kamen Raider มาทั้งในรูปของหุ่นจำลองหลากหลายขนาดและเข็มขัดแปลงร่าง

Dragon Ball Super สถานที่

พอถึงในยุค 80 บริษัทของเล่นแห่งนี้ก็ได้มาสู่ในยุคที่ 2 ภายใต้การบริหารของ มาโกโตะ ลูกชายของผู้ก่อตั้ง และมี Gunpla หุ่นพลาสติกจำลองแบบประกอบได้จาก Gundam การ์ตูนหุ่นยนต์เรื่องใหม่ที่พึ่งเริ่มดังในตอนนั้น เป็นสินค้าที่ขายดี

ร่วมกันกับของเล่นจากเหล่าภาพยนตร์ชุดทีวีกลุ่มขบวนการ5สี Bandai รวมกิจการกับ Namco บริษัทที่เด่นในเรื่อง Video Game และเป็นยักษ์ใหญ่ในตลาดเกมตู้ที่ก่อตั้งเมื่อปี 1955 กลายเป็นบริษัทใหม่ภายใต้ชื่อ Bandai Namco ประกอบด้วยธุรกิจ 7 กลุ่ม ได้แก่ ของเล่นและสินค้าสำหรับงานอดิเรก Network Entertainment (Video Game อยู่ในกลุ่มนี้) ฝ่ายผลิตเพลงและสื่อด้านภาพ (Visual) และดูแลลิขสิทธิ์

Dragon Ball Super การ์ตูน

Dragonball Super

เป็นซีรีส์ชุดใหม่ของดราก้อนบอล โดยผู้เขียนเรื่องต้นฉบับอย่างอากิระ โทริยาม่าก็ได้กลับมาเขียนเนื้อเรื่องอีกครั้ง และเป็นอนิเมะชุดที่ 5 ของซีรีส์ ออกอากาศเป็นครั้งแรกเมื่อวันที่ 5 ก.ค. 2558 ต่อมาจากดราก้อนบอล ไค ทางช่องฟูจิทีวีของญี่ปุ่น โดยในภาคนี้ได้ดำเนินต่อจากดราก้อนบอล Z หลังจบศึกบู และได้นำเนื้อหาจากภาพยนตร์ ดราก้อนบอล Z ศึกสงครามเทพเจ้า และ ดราก้อนบอล Z การคืนชีพของฟรีเซอร์ มาเล่าเรื่องกับขยายความใหม่อีกรอบเพื่อที่จะเชื่อมโยงเข้าสู่เนื้อหาใหม่ที่จะปรากฏในซีรีส์นี้ คือ ช่วงระหว่าง 10 ปี ก่อนที่โกคูพบอูบุ (จอมมารบูกลับชาติมาเกิดใหม่)

Dragon Ball Super บีรุส

บทเทพทำลายล้างบีรุส

4 ปีหลังปราบจอมมารบูสำเร็จ ฮะไคชินบีรุสได้ตื่นขึ้นจากจำศีล ได้ฝันเห็นคู่แข่งที่มีความแข็งแกร่งที่สุดคือซูเปอร์ไซย่าก๊อดจึงได้ออกตามหา มาดาวไคโอเหนือเจอกับ ซุน โกคูที่ฝึกอยู่ จึงสู้กัน โกคูแพ้อย่างง่ายดาย บีรุสเมื่อได้ทราบว่ามีชาวไซย่าบนโลกจึงไปหา คือช่วงงานวันเกิดของบลูม่า บีรุสโกรธที่ถูกบูแย่งพุดดิ้งกับไม่พบซูเปอร์ไซย่าก๊อด คิดจะลบโลกทิ้ง โกคูที่ตามมาได้เสนอให้ถามจากเทพเจ้ามังกร มี 2 วิธีคือ เทพแปลงกายเป็นชาวไซย่า หรือ คือให้ชาวไซย่าทั้ง 5 คน ที่มีจิตบริสุทธิ์ ส่งพลังไปยังคนที่ 6

ที่เป็นศูนย์กลางทำให้เป็นได้ ดังนั้นเบจิต้า,โกฮัง,โกเท็น,ทรังคส์,และบีเดลที่ท้องมีเชื้อสายจากชาวไซย่า ทำพิธีส่งลังให้โกคูกลายเป็นซูเปอร์ไซย่าก๊อดเป็นที่สำเร็จ จึงได้สู้กับบีรุสได้อีกครั้งโดยมีเงื่อนไขว่า ถ้าหากโกคูแพ้โลกจะถูกทำลายทันที เวลาของร่างก็อดก็หมดลง โกคูจึงแพ้ แต่บีรุสเปลี่ยนใจไม่ทำลายโลกกับเรื่องยุติลง แต่บีรุสกับวิสก็กลับมาแวะเวียนในฐานะแขกอยู่ประจำ ซึ่งโกคูกับเบจิต้าไปขอวิสเทวดาคนสนิทของบีรุส พาไปฝึกที่ดาวของบีรุส ให้แข็งแกร่งขึ้น

Dragon Ball Super ตัวร้าย

บทฟรีเซอร์คืนชีพ
1 ปีต่อมา กองทัพฟรีเซอร์ใกล้ที่จะล่มสลาย โซเบคือผู้นำ หาดาวนาเม็กดวงใหม่ไม่พบ จึงได้พาทาโกมะไปโลกเพื่อที่จะรวบรวมดราก้อนบอลขอพรคืนชีพฟรีเซอร์ได้สำเร็จ แต่ว่าร่างนั้นเป็นชิ้นส่วนจำนวนมากทั้ง2จึงรวบรวบพาไปรักษา พอฟรีเซอร์คืนชีพหายดี กลับมานำอีกครั้ง ก็คิดแก้แค้นโกคู แต่พอทราบว่าโกคูเอาชนะจอมมารบู คิดถึงสิ่งที่พ่อพูดก่อนที่ตายว่าอย่าไปยุ่งกับจอมมารบูกับฮะไคชินบีรุส จึงฝึกฝน 4 เดือน เพื่อเป็นการดึงพลังแฝงทั้งหมดออกมา พอฝึกเสร็จนำทัพไปบุกโลก

กองทัพพ่ายแพ้ให้กับคุริลิน,โกฮัง,เทนชินฮัง,พิคโกโร่,ผู้เฒ่าเต่า ทางพวกโกคูพอทราบเรื่อง แต่ต้องเสียเวลาไป ทุกคนจึงเร่งพลังถึงขีดสุด จนโกคูจับสัมผัสใช้วิชาเคลื่อนย้ายพาตนกับเบจิต้ามาที่โลกทัน ทั้ง2ได้ร่างใหม่ “ซูเปอร์ไซย่าก็อดซูเปอร์ไซย่า หรือ ซูเปอร์ไซย่าบลู” ได้เข้าต่อสู้กับฟรีเซอร์ที่มีร่างใหม่ “โกลเด้นฟรีเซอร์” ทางโกคูประมาทถูกโซเบทำร้ายจนบาดเจ็บ เบจิต้าจึงสู้ต่อแทนโดยไม่ลังเล ฟรีเซอร์สู้ติดต่อกันที่ไม่ชินกับร่างโกลเด้นเสียท่าให้กับเบจิต้า จึงได้ฉวยโอกาสทำลายโลกทิ้ง พวกโกคูเท่านั้นที่รอด วิสก็ช่วยย้อนเวลากลับไป 3 นาที จนโกคูรีบฆ่าฟรีเซอร์ทันที

 

Dragon Ball Super กรุงเทพ

 

การออกอากาศของ Dragonball Super

ดราก้อนบอล ซูเปอร์ ออกอากาศทุกวันอาทิตย์เวลา 9:00 น. – 9:30 น. ทางช่องฟูจิทีวีของญี่ปุ่น ออกอากาศครั้งแรกเมื่อวันที่ 5 ก.ค. 2558 ต่อจากดราก้อนบอล ไค บทจอมมารบู ในประเทศไทย ได้ออกอากาศทางช่อง TNT Thailand (Toonami) ออกอากาศในรูปแบบซีซัน โดยจำนวนตอนในซีซันแบ่งตามเวอร์ชันภาษาอังกฤษของ Toonami Asia

– ซีซันที่ 1 (ตอนที่ 1-13) ออกอากาศ วันที่ 7 พ.ค. 2560 ทุกวันอาทิตย์ เวลา 9:30 – 10:00 น.
– ซีซันที่ 2 (ตอนที่ 14-27) ออกอากาศ วันที่ 6 สิงหาคม 2560 ทุกวันอาทิตย์ แต่ในเดือนก.ย. เปลี่ยนวันออกอากาศเป็นวันเสาร์-อาทิตย์ เวลา 9:30 – 10:00 น. ออกอากาศถึงตอนที่ 26
* ตอนที่ 27 ไม่มีกำหนดออกอากาศในไทย *
– ซีซันที่ 3 เป็นต้นไป : ไม่มีกำหนดออกอากาศ

Dragon Ball Super ประกาศ
TNT Thailand ยุติการออกอากาศตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2561 เป็นต้นไป

จำนวนตอนของแต่ละซีซัน อ้างอิงตามเวอร์ชันภาษาอังกฤษทางช่อง Toonami Asia
พากย์เสียงต้นฉบับภาษาอังกฤษโดย Bang Zoom! Entertainment
พากย์ไทยโดย TNT Thailand (Toonami) – ทีมพากย์ช่อง 9 (บทพูดไทยแปลมาจากบทพูดของ Bang Zoom!)
ลิขสิทธิ์โดย Cartoon Network

นอมินี ชูวิทย์เผย

ชูวิทย์เรียกร้องให้บิ๊กตู่สั่งการคดีทุนจีนสีเทาเอง เปิดนอมินีตู้ห่าว แฉเส้นทางโอนเงินซื้อที่ 400 ล้าน

ชูวิทย์ เรียกร้องให้บิ๊กตู่ สั่งการคดีทุนจีนสีเทา องค์กรใหญ่เกินกำลัง ผบ.ตำรวจไปแล้ว เปิดเส้นทางโอนเงินซื้อที่ดิน 400 ล้าน จากตู้ห่าวให้ นอมินี สาว โวกุมพยานสำคัญ คนข้างกาย นายทุนจีน ทำพิธีเผาพริกเผาเกลือ แช่งคู่กรณี

นายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ อดีตนักการเมือง เปิดแถลงข่าว เครือข่ายนักธุรกิจจีนสีเทา ที่โรงแรมเดอะเดวิส สุขุมวิท 24 โดยบอกกับผู้รายงานข่าวว่า จะต้องรีบแถลงข่าว เนื่องจาก วันนี้หวยจะออก หวยจะออก ที่คู่กรณี โดยจะเผาพริกเผาเกลือ แช่งกับผู้ที่มันไม่จงรักภักดี กับประเทศที่ตนเองอยู่ ทำมาหากิน เอาสื่อ เป็นเครื่องมือ หวังไปหักหลังพวกจีนเทา

ถ้าหากสิ่งที่ตนพูด มีเบื้องหลัง ขอให้ฉิบหายวายวอด ให้จงพินาศ แต่ถ้าหากพูดความจริง ขอให้เจริญรุ่งเรือง แล้วให้คู่กรณี มีอันเป็นไป 3 วัน 7 วัน ถ้าหากเผาพริกเผาเกลือเสร็จ เป็นอะไรไป จะส่งสังฆทานไปให้ เนื่องจาก ต่อไปอยู่ในนรกแน่

นายชูวิทย์ กล่าวว่า ประเทศจีน มีประชากร 1,400 ล้านคน เพียงแค่มีคนเลว 0.0001% ก็เป็นจำนวนเป็นแสนแล้ว ตน และก็ บรรพบุรุษเป็นจีนเก่า ยากจน ไม่มีเงิน นั่งเรือมา เสื่อผืนหมอนใหม่ เหมือนกันกับ ซีพี เบียร์ช้าง แต่ในวันนี้นักธุรกิจจีนเทาเป็นจีนใหม่ มาพร้อมโลภ กิเลส มาเปิดคอลเซ็นเตอร์ พนันออนไลน์ เปิดบ่อน ค้ายาเสพติด จะต้องแยกจีนเก่า กับจีนใหม่ สถานทูตจีน ได้ส่งคนมาทำความเข้าใจกับตน แต่ไม่ได้เปิดเผย

ผู้รายงานข่าว แถลงการณ์ว่า หลังจากนั้น นายชูวิทย์ ได้เปิดคลิปให้สัมภาษณ์ผู้สื่อข่าวจีน แล้วแปลเป็นภาษาจีน

นอมินี 5 มาเฟีย

นายชูวิทย์ กล่าวว่า คู่กรณีตนทำมาหากินกับจีนเทา ตีราคา ใช้สื่อเป็นเครื่องมือพูด แต่ไม่มีข้อมูล

“สังคมไทยไม่เข้มแข็ง อ่อนแอ ผมเคยอยู่ในสังคมตะวันตกมา เห็นว่า สังคมไทยแตกต่างกัน ช่วงนี้ ผมสู้อย่างโดดเดี่ยว แต่ไม่เป็นไร คนส่งแรงใจมาให้ บอกให้ระวังเนื้อระวังตัว ผมไม่กลัว แต่วันนี้มากระตุกหนวดเสือ ผมซัดเต็มที่ ไม่อีกฝั่งพัง ผมก็พัง ผมมีเงิน เอาเงินมาวางเป็นโต๊ะ เจ๊งเป็นเจ๊ง ผมกล่าวถึงทุนจีน ตั้งแต่ 13 ก.ค. 2565 ก่อนตำรวจไปจับผับจินหลิง เดือนตุลาคม ก่อนหน้านี้

แต่สังคมไทยติดตาม เมื่อเกิดคดีผับจินหลิง แล้วมาหาผม แต่ทำไม ไม่ไปพบสันขวาน ก็มันไม่มีข้อมูล อยากชนกับผมใช่มั้ย ผมไม่มีอะไรเสีย ผมบอกแล้วจะล้มกระดาษ คนเลวทำผิดร้อยครั้ง หลุดรอดทั้งร้อยครั้ง แต่คนอย่างผม ขอชนะครั้งเดียว แล้วล้มกระดานทั้งหมด” นายชูวิทย์กล่าว

นายชูวิทย์ กล่าวว่า หมดภารกิจ แต่ยังไม่หมดหน้าที่ ได้ตั้งทีมทนาย ทีมที่ปรึกษา จ่ายสายข่าวสาร โดยจ่ายสายข่าวสารให้ ที่ทำแบบนี้ได้ เพราะมีเงิน ได้กุมพยานปากสำคัญเป็นคนข้างกายนายตู้ห่าว เป็นคนไทย นายตู้ห่าวไล่คนนี้ออก เนื่องจาก จะเปิดพนันออนไลน์เอาชาวจีนมาประชุม 30 คน

แต่คนนี้ไม่เอาด้วย ก็โดนไล่ออก ไม่ขอเอ่ยชื่อพยานคนนี้ ทั้งตำรวจ ดีเอสไอ อยากตั้งแท่นคดีเป็นคดีพิเศษ แต่พยานคนนี้ จะไม่ให้ใคร ถ้าหากไม่แน่ใจหน่วยงานรัฐ

นายชูวิทย์ กล่าวว่า ตั้งแต่นี้ไป จะติดตามใครทำคดี ทำสำนวนอ่อนหรือไม่ ส่งไปอัยการไหน วิ่งเต้นได้หรือไม่ เนื่องจาก ฝากขังได้ 7 ผัด ผัดละ 12 วัน 84 วันนี้

ตำรวจ จะต้องทำคดีให้เสร็จ ไม่เช่นนั้นตู้ห่าวหลุด ช่วงนี้ ตู้ห่าวเงินไหลเป็นน้ำประปา เพื่อช่วยให้ตนเองมีอิสรภาพ

นายชูวิทย์ ได้เปิดภาพ มีคนไปปลูกป่าที่จังหวัดเชียงราย โดยเป็นหน่วยงานต่างประเทศ ใช้เงินสนับสนุนหน่วยงานยาเสพติดของไทย และก็ เอาเงินต่างประเทศ ไปอยู่กลางป่าสงวน เหมือนกันกับ บ้านตุลาการที่ป่าแหว่ง ที่เชียงใหม่ทุกอย่าง ส่วนที่ปรึกษา ซึ่งเป็นลูกเขยกับหลานเขยที่โดนคดียาเสพติด ซึ่งมีรูปยืนยันว่า สนิทสนมแค่ไหน นอกเหนือจากนี้ มีรูปลูกเขยนั่งในงานเดียวกับข้าราชการระดับสูง องค์กรหนึ่งด้วย

นอมินี เปิดหน้า

นายชูวิทย์ กล่าวว่า 5 มาเฟียทุนจีนสีเทา เปิด นอมินี ตู้ห่าว

เป็นการทำมาหากินไม่สุจริต ทำธุรกิจมีนอมินี ในส่วนของตู้ห่าวเป็นนางพัชรินทร์ มีหลักฐาน 100% ทั้ง เส้นทางการเงิน ตายกับตายมาเยอะแล้ว เนื่องจาก ไม่ระวังเนื้อระวังตัว

นอกเหนือจากนี้ กรณีไพรเวตเจ็ต ป.ป.ส. ไปไม่ค้น เพียงแค่แปะกระดาษ 3 แผ่น เริ่มจับผับจินหลิง 26 ตุลาคม แต่เวลานี้ 1 เดือนธันวาคม มาเฟียจีนหนีหมดแล้ว ทำลายเอกสาร

นายชูวิทย์ เปิดเอกสารสัญญาซื้อที่ดิน ระหว่างนายชัยณัฐร์ โดยนางพัชรินทร์ ตัวแทนนายชัยณัฐร์ ซื้อที่ดินย่านบางเสาธง จังหวัดสมุทรปราการ 402 ล้านบาท มัดจำ 50 ล้านบาท และก็ มีการโอนเงินแล้วออกเช็คในชื่อผู้ขาย ถามว่า นางพัชรินทร์ เป็นนอมินีหรือไม่ ดังนั้น จะต้องไปตามเส้นทางการเงิน ที่ตนแฉ นับว่าเป็นมาสเตอร์พีซ

นายชูวิทย์ กล่าวว่า ส่วนกรณีที่นักธุรกิจจีนเทาขอวีซ่านักเรียนได้ เนื่องจาก กลุ่มจีนเทานี้ สร้างสมาคม มูลนิธิเถื่อน แล้วซื้อโรงเรียนสอนภาษา ยังไม่พอ กลุ่มแอบอ้างเบื้องสูง ที่สมาคมเถื่อนที่วิภาวดี ที่ นายหลินหลงแต่งกายคล้ายทหารยศ พันเอก ไปแสดงตัวที่สำนักนายกฯ ถามว่าจีนพวกนี้ หรือ ที่จะเลี้ยงไว้ แล้วยังเอาเงินสด 100 ล้านบาท ซื้อยกหมู่บ้าน แล้วเอาเงินเข้ามาได้ยังไง โดยมีสำนักงานทนายจีน มาร่วมกับสำนักงานทนายไทย แถวรัชดา ให้คำแนะนำ มีการใช้นอมินีไทย โดยจ่ายเงิน 40,000 บาทต่อคนต่อปี

“อย่าคิดว่า ใครสั่งผม อยู่เบื้องหลังผม ผมไม่ยุ่งการเมือง แต่เรื่องนี้วาระแห่งชาติ เรื่องทุนจีนเทา ยาเสพติด นายกฯ ควรจะมาสั่งการเกิน ผบ.ตำรวจไปแล้ว เนื่องจาก เหลืออายุราชการปีเดียว ปีถัดไปปลดเกษียณแล้ว” นายชูวิทย์กล่าว

นายชูวิทย์ ได้ประเด็นใหม่ โดยพูดว่า ไม่ต้องสวมบัตรประจำตัวประชาชนผู้ตาย มีวิธีการ “อุ้มท้องซื้อพ่อ” สุดคลาสสิก และก็ เป็นรูรั่ว กระทบความมั่นคง และก็ กระทบทุกอย่าง แต่ยังไม่ขอพูด คอยภาคต่อไป

นอกเหนือจากนี้ นายชูวิทย์ เปิดคลิป มีผู้หญิงไทย เต้นเปลือยกาย และก็ กล่าวว่า “จะเอาอีกไหม ซีรีส์มาเฟียจีน คนไทยติดตาม อาศัยประเทศไทยปฏิบัติการ เนื่องจาก ระบบราชการอ่อนแอ”

หลังจากนั้น นายชูวิทย์ ทำพิธีเผาพริกเผาเกลือ แช่งคนหาประโยชน์ กลุ่มทุนจีนสีเทา ให้พินาศตกนรกหมกไหม้

ค้ากาม 3สาว

3 สาวไทยเผยชีวิตในขุมนรก ถูกหลอกให้ค้ากามที่เมืองล็อกกิ่ง หนักสุดถึงขั้นบังคับเสพยา

ค้ากาม 3 สาวไทยเปิดใจ ช่วงชีวิตในขุมนรก หลังจากถูกหลอกไปทำงานที่เมืองล็อกกิ่ง ในเขตปกครองพิเศษพม่า ในที่สุด จำเป็นต้องขายบริการ หนักสุดถึงขั้นบังคับให้อดข้าว แล้วก็ เสพยา ด้วยเหตุว่า หลงเชื่อคนในเฟซบุ๊ก

เมื่อเวลา 15.30 น. วันที่ 29 พ.ย. 2565 ในรายการ “เปิดปากกับภาคภูมิ” ทางไทยรัฐทีวี ช่อง 32 ดำเนินรายการโดย นายภาคภูมิ พันธุ์สถิตย์ ได้เอ่ยถึง กรณี 3 สาวไทย

เปิดเผยชีวิตในขุมนรก ถูกหลอก-บังคับ-ทรมาน ค้ากาม ที่เมืองล็อกกิ่ง ในเขตปกครองพิเศษของว้าแดง ประเทศเมียนมา ด้วยเหตุว่า หลงเชื่อคนในเฟซบุ๊ก ชวนไปทำงาน

ค้ากาม รายการ

นางสาวบี ผู้เสียหาย อายุ 29 ปี เหยื่อ ค้ากาม เล่าว่า

มีผู้หญิงชื่อน้ำ ซึ่งเป็นเพื่อนในเฟซบุ๊ก ทักแชตมาหา ชวนไปทำงานที่เมียนมาร์ ในตอนแรก ไม่บอกว่างานอะไร บอกเพียงว่ากลับมาไทยแล้ว หลังไปทำมา 3 เดือน ตัวเองก็เลยถามว่า ได้กี่บาท น้ำพูดว่า กลับมาได้ 7 แสนบาท ในช่วงเวลานั้น รู้สึกเพียงว่าได้มาก ทำไมถึงรีบกลับมา น้ำบอกเพียงแค่กลับมาบวช แล้วก็ มาซื้อบ้าน

ในช่วงเวลาที่ นางสาวเอ อายุ 29 ปี ซึ่งเป็นเพื่อนกับบี เปิดเผยว่า เห็นว่าทำงานเมืองนอกได้เงินดี และ ไม่ใช่เงินพม่า เป็นเงินหยวน ก็เลยตัดสินใจไปทำงานกัน ทั้ง 3 คน ถัดมา

ในวันที่ 21 เดือนกันยายน น้ำขับขี่รถมารับทั้ง 3 คน ที่ห้องพักใน จ.ชลบุรี ก่อนส่งที่สนามบินสุวรรณภูมิ มาลงเครื่องเชียงใหม่ แล้วก็ จำเป็นต้องนอนรอที่โรงแรมเชียงใหม่อีก 1 คืน

แล้วก็ วันถัดมา ตอนตี 5 มีรถปิคอัพคันสีขาวมารับจากโรงแรม ซึ่งเป็นรถปิคอัพขนแตงโม พาลงไปที่หมู่บ้านแห่งหนึ่งแถวชายแดน แล้วต่อจากนั้น ชาวบ้านก็ไล่ลงรถ บอกว่า มีทหารมาตรวจ จำเป็นที่จะต้องใช้การเดินเลาะตีนเขาไป

ขณะนั้น เริ่มรู้สึกแปลกใจ อยากจะชวนกันกลับ ด้วยเหตุว่า เห็นระยะทาง และ ไม่โอเค แต่ว่าไม่สามารถกลับได้

เหตุเพราะ ซิมใช้ไม่ได้ ติดต่อใครไม่ได้เลย ตอนนั้น มีกันอยู่เพียงแค่ 3 คน ใช้เวลาเดินทาง 5 คืน 6 วัน แล้วก็

ต้องมีการเปลี่ยนรถยนต์ที่ใช้เดินทางไปเรื่อยๆ เหมือนการขนแรงงานต่างด้าว ต้องแฝงตัวคละไปกับพวกพม่า จนถึงไปถึงเมืองล็อกกิ่ง

ค้ากาม ขุมนรก

คุณปวีณา หงสกุล ประธานมูลนิธิปวีณาหงสกุลเพื่อเด็ก แล้วก็ สตรี เปิดเผย ถึงเหยื่อ ค้ากาม ว่า

พื้นที่ดังที่กล่าวถึงแล้ว เป็นเขตปกครองพิเศษ ไม่มีใครติดต่อได้ แม้ว่าจะอยู่ในประเทศเมียนมา แต่ว่าอยู่ในตะเข็บชายแดนที่ใกล้กับจีน

ผู้ที่เข้าไปเที่ยวเป็นคนจีนทั้งสิ้น มีทุกสิ่งทุกอย่างครบวงจร ทั้งยังกาสิโน ธุรกิจสีเทาอยู่ตรงนั้นหมด แต่ว่าไม่มีทางติดต่อกับไทยได้เลย ไม่มีถนน มีแต่ทางลูกรัง จากไทยเข้าเมียนมา จำเป็นต้องลักลอบเข้าไปเท่านั้น เป็นเศรษฐกิจพิเศษเฉพาะคนจีน

นางสาวเอ เล่าต่อว่า หลังจากลงรถที่โรงแรม มีผู้หญิงที่พูดภาษาไทยได้ เรียกตัวเองว่า เจ๊ พาขึ้นไปที่โรงแรม จากนั้น ให้เพื่อนทั้งสองคน คือ บี แล้วก็ ซี ไปอาบน้ำแต่งตัว พร้อมกับกล่าวว่า จะให้คนมาดูตัว ตอนนั้น ตนเองตกใจมาก ด้วยเหตุว่า น้ำเคยบอกไว้ว่า จะให้ทำงานเคทีวี คือ การทำงานในร้านคาราโอเกะ เจ๊คนดัง กล่าวมานั่งคุยกับตน ถามว่า น้ำบอกไหมค่าใช้จ่ายสำหรับการเดินทางเท่าไร

ตนก็เลยโชว์รายละเอียดแชตที่คุยกับน้ำให้ดู แล้วต่อจากนั้น เจ๊ชี้แจงว่า ควรจะมีการเซ็นสัญญา 3 เดือน แล้วก็ ต้องมีค่าใช้จ่ายจากการหาร้านลงทำงานให้ แล้วก็ จำเป็นต้องเสียค่าใช้จ่ายสำหรับการเดินทางอีก 90,000 บาท

ในเวลานั้น ตกใจมาก ไม่เคยรู้ว่าค่าอะไร แล้วก็ เริ่มสงสัยว่า งานที่ทำ ไม่ใช่คาราโอเกะอย่างแน่นอน แถมเจ๊ยังบอกอีกว่า ตัวเองไม่ตรงปก อ้วนเกินไป ไม่มีร้านลงให้ จำเป็นต้องแยกร้านทำงานกับเพื่อนอีก 2 คน แล้วก็ ได้มารู้ที่หลังว่า น้ำได้เงินจากเจ๊ไป คือ 140,000 บาท

ตอนที่ นางสาวซี กล่าวว่า ตัวเอง แล้วก็ พี่สาว ถูกซื้อตัวไปเข้าสังกัดแห่งหนึ่ง ตอนนั้น ก็ไม่รู้เรื่อง ด้วยเหตุว่า ฟังไม่รู้เรื่อง ได้ยินอีกที คือ ให้ไปทำงานที่ตึก ในตอนแรกๆ ก็ทำงานร้านคาราโอกะทั่วๆไป

ค้ากาม ถูกหลอก

แต่ว่าหลัง ๆ ก็ให้พวกตนขายบริการ แม้ว่าจะไม่ยินยอม ค้ากาม แต่ว่าเลือกไม่ได้

เหตุเพราะ มีทหารยืนคุม ยืนข่มขู่ทุกๆที่ ทำให้จำเป็นต้องยอมทุกอย่าง โทรศัพท์มือถือใช้งานได้บ้าง ไม่ได้บ้าง แต่ว่าก็ไม่ถูกยึด ก็เลยทำตัวปกติทุกๆอย่าง

ตอนที่ เอ เล่าต่อว่า ตัวเอง จำเป็นต้องอยู่ที่โรงแรมผู้เดียว หลังจากแยกกับเพื่อนทั้งสองคน เจ๊บอกจะหาร้านลงให้ แต่ว่าจำเป็นต้องรอ แล้วก็ ถูกชวนขึ้นไปเล่นห้องข้างบนโรงแรม บอกให้ไปฝึกดูงาน พอขึ้นไป ถูกสั่งให้สูดดมยา แม้ว่าจะบอกว่า สูดดมไม่เป็น ก็ส่งน้ำอะไรไม่รู้ มาให้ตนดื่ม ตนก็เลยขอกลับลงมารอข้างล่าง แล้วก็ อยู่รออยู่ในห้องนั้นอีก 4 วัน ถึงได้มีข้าวกล่อง มาส่งให้กิน

ขณะนั้น ตนไม่ไหวแล้ว ก็เลยติดต่อกลับไปหาน้ำ ได้รับคำตอบว่า จะส่งให้ตัวเองไปพักอยู่กับบี แล้วก็ ซี ที่ร้านคาราโอเกะ ก่อนบอกกับตนว่า บี แล้วก็ ซี เป็นหนี้เป็นสินอีก 250,000 อีก 1 อาทิตย์ แยกตัวเองก็ได้ไปอยู่อีกร้านหนึ่ง ซึ่งจำเป็นต้องทำงานขายบริการโดยตรง แล้วก็ ใช้ชีวิตแบบนั้นเดือนกว่า ก็เลยได้ตกลงคุยกันกับเพื่อนอีก 2 คนว่า อยู่ไม่ได้แล้ว ทรมาน หนักสุด คือ ไม่ให้ทานข้าว บังคับให้ขายบริการ แล้วก็ เสพยา

แล้วก็ ได้ติดต่อขอความช่วยเหลือจากที่บ้านอย่างเอาจริงเอาจัง หลังจากได้พูดคุยกับครอบครัวตลอด ตั้งแต่มาทำงาน แต่ว่าหลังจากคุยเสร็จ ก็ลบข้อมูลทิ้งทุกอย่าง เหตุเพราะ กลัวจับได้ ด้วยเหตุว่า ในตอนเซ็นสัญญา เคยถูกข่มขู่ไว้ว่า จะทำร้าย แล้วต่อจากนั้น ครอบครัวก็รวบรวมข้อมูลไปขอความช่วยเหลือไปที่มูลนิธิปวีณา

คุณปวีณา หงสกุล เปิดเผยว่า พ่อของเหยื่อ ได้เดินทางมามูลนิธิ แล้วก็ ติดต่อกรมการกงสุล กระทรวงต่างประเทศ ก่อนจะะส่งเรื่องไปสถานทูตไทย ในเมียนมา แต่ว่าเหตุเพราะ เป็นเขตปกครองพิเศษ เข้าไปยากมาก แม้กระทั้งทหารเมียนมาเอง ก็เข้าออกลำบาก ก็เลยได้ติดต่อกับผู้การทหารม้าที่เชียงราย แล้วก็ บินไปพบ แล้วก็ ประชุมกัน เพื่อช่วยเหลือ แล้วต่อจากนั้น ก็ส่งหนังสือในชื่อมูลนิธิ เพื่อติดต่อขอความช่วยเหลือไปที่เมียนมา แล้วก็ วิดีโอคอล ประชุมกันกับตัวแทนทหารเมียน มาตลอดระยะเวลา

ในขณะที่ ทั้งสามคนรอคอยการช่วยเหลือจากทหารเมียนมา

ก็พากันแอบหนีออกมาจากที่ทำงาน ไปหลบซ่อนตัว ที่ห้องพักแห่งหนึ่ง น้ำได้ส่งข้อความมาต่อว่า แล้วก็ ทวงเงิน เหตุเพราะ เจ๊ได้ทักไปทวงเงินกับน้ำ แล้วก็ กล่าวว่า พวกตนแอบหนีออกมาแล้ว

ทั้งยังข่มขู่ว่า หากตามพบ จะส่งทหารมาทำร้าย หากพบที่นี่ ก็จะกระทืบ แต่ว่าหากพบที่ไทย ก็จะกระทืบด้วยเหมือนกัน แล้วก็ จะทำร้ายผู้ที่มาช่วยเหลือด้วย

ในตอนแรก ทั้งสามก็กลัว ด้วยเหตุว่า ยังอยู่ในพื้นที่เมียนมา แต่ว่าตอนอยู่ไทย ไม่กังวล ด้วยเหตุว่า ปลอดภัยแล้ว ในระหว่างรอคอยช่วยเหลือ ยืนยันว่า ทรมานมาก มาม่าห่อเดียวกินกัน 3 คนทุกคน แต่ว่า ในที่สุดเจ้าหน้าที่ก็ติดต่อประสานงานจนกระทั่งรับตัวได้

แต่ว่าในระหว่างนั้นก็จำเป็นต้องได้รับโทษ เหตุเพราะ ลักลอบเข้าไปในพื้นที่ จำคุก 3 อาทิตย์ ลักษณะคล้ายคุกขี้ไก่ เป็นคุกไม้มีแต่ฝุ่น พันด้วยลวดหนาม แต่ว่า ในที่สุดก็กลับไทยได้อย่างปลอดภัย

ในส่วนของคดี นางสาวปวีณา หงสกุล เปิดเผยต่อว่า เรื่องนี้ยังไม่จบ หลังจากนี้ จำเป็นต้องส่งให้หน่วยสอบสวนขยายผลการค้ามนุษย์ต่อไป แล้วก็ เหลืออีก 2 คน กำลังเดินทางกลับมา ในที่สุดผู้เสียหายทั้งสามฝากถึงผู้ที่กำลังมองหางานว่า มันไม่สวยงามอย่างที่คิดไว้ ถ้าจะไปก็ใช้สตินิดนึง แนะว่าอยู่ที่ไทยดีกว่า หากไปแล้วจำเป็นต้องอดข้าวอดน้ำ แน่นอนว่าอยู่ที่ไทยดีกว่า

อย่างไรก็ตาม สามารถติดตามรายการ “เปิดปากกับภาคภูมิ” พร้อมกันได้ทุกวันจันทร์ ถึง วันศุกร์ ตั้งแต่เวลา 15.30 น. เป็นต้นไป ได้ทางไทยรัฐทีวี ช่อง 32

 

หมอ เพจสู้ดิวะ

หมอหนุ่ม เจ้าของเพจ “สู้ดิวะ” อัปเดตอาการป่วย “มะเร็งปอดระยะสุดท้าย”

หมอ หนุ่ม เจ้าของ “เพจสู้ดิวะ” ป่วยมะเร็งปอดระยะสุดท้าย อัพเดทอาการล่าสุด หลังรับเคมีบำบัดครั้งที่สาม ยังสามารถใช้ชีวิตประจำวันได้ แทบจะปกติ

โซเชียลร่วมส่งพลังใจให้ หมอหนุ่มวัย 28 เจ้าของเพจ “สู้ดิวะ” พร้อมอัปเดตอาการป่วย “มะเร็งปอดระยะสุดท้าย” โดยขอให้ทุกคนใช้ชีวิตให้สนุก มีสุขภาพร่างกายที่สมบูรณ์แข็งแรง

ถ้าใครได้ติดตามเรื่องราวก่อนหน้าที่ผ่านมา คุณหมอกฤตไท ธนสมบัติกุล อายุ 28 ปี เจ้าของเพจ สู้ดิวะ ได้ออกมาเล่าเรื่องราวที่ตัวเองนั้น ป่วยมะเร็งปอดระยะสุดท้าย ทั้งที่มั่นอกมั่นใจสุขภาพดีมาตลอด มีการงานอาชีพที่สามารถเรียกได้เลยว่า กำลังไปได้สวย ซึ่งล่าสุด เจ้าตัวก็ได้อัพเดทอาการหลังรับเคมีบำบัด ครั้งที่สาม

หมอ หนุ่ม

จากกรณีเรื่องราว หมอ ที่ถูกพูดถึงเป็นอย่างมากในโลกออนไลน์

เมื่อ คุณหมอกฤตไท ธนสมบัติกุล อายุ 28 ปี ได้เปิดเพจเฟซบุ๊ก “สู้ดิวะ” เพื่อเล่าประสบการณ์การป่วยเป็น “มะเร็งปอดระยะสุดท้าย” ทั้งที่อายุน้อย ชอบออกกำลังกาย แล้วก็ มีสุขภาพร่างกายที่สมบูรณ์แข็งแรง ต่อมาโลกออนไลน์ได้ส่งพลังใจให้คุณหมอกันเป็นจำนวนมาก (หมอหนุ่มวัย 28 เจ้าของเพจ “สู้ดิวะ” แชร์ประสบการณ์ป่วย “มะเร็งปอดระยะสุดท้าย”)

ล่าสุด วันที่ 27 เดือนพฤศจิกายน 2565 เฟซบุ๊ก สู้ดิวะ ได้โพสต์ข้อความอัปเดตอาการป่วย ดังที่ได้กล่าวผ่านมาแล้ว โดยบอกว่า สวัสดีครับทุกคน ผมสบายดีครับ ยังสามารถใช้ชีวิตประจำวันได้แทบจะปกติ เพิ่งรับเคมีบำบัด ครั้งที่สาม มาเมื่อวันพุธก่อนหน้านี้ที่ผ่านมา

รอบนี้เพลียมากๆ ง่วงทั้งวัน ตื่นมากินข้าว แล้วก็ หลับต่อ เรียกได้ว่า นอนจนกระทั่งจะเป็นแผลกดทับ วันนี้มีแรงเพิ่มมากขึ้นแล้ว ออกมารับประทานอาหารนอกบ้าน อยากไปออกกำลังกายแล้ว แต่ว่าฝุ่นละอองเชียงใหม่ก็เริ่มน่ากลัว เกินกว่าจะเอาปอดไปเสี่ยง ไม่อยากจะคิดถึงฝุ่นละอองช่วงพีคเลย อาจจะต้องเก็บตัวอยู่ข้างในห้อง ไม่ก็ย้ายจังหวัดชั่วครั้งคราว แต่ว่าเอาจริงช่วงพีคนี่ย้ายไปจังหวัดไหนก็คงจะพอกัน

ช่วงก่อนที่จะรับยารอบสามนี้ มีเรื่องสนุกเกิดขึ้น ต้องบอกว่าตัวผมเองปกติแล้ว ออกกำลังกายหนักถึงหนักมาก แต่ว่าพอมาเข้ารับการดูแลรักษา ในตอนเดือนแรก ลำพังเพียงแค่ยืนให้ตรง ก็จัดว่ายอดเยี่ยมแล้ว เพราะ ถ้าเช่นนั้นการออกกำลังกายก็เลยไม่ได้ทำเลย วันๆก็กินกับนอน

บวกกับช่วงแรกเป็นตอนประชดชีวิต อะไรที่เคยไม่กิน เราก็กินหมดเลย ของทอด ของมัน หมูกรอบ สามชั้น เค้ก น้ำหวาน เรียบร้อยไขมันสูง ได้เริ่มกินยาลดไขมันในเลือด แต่ว่าดี เพราะ มันทำให้มีเป้าหมายระยะสั้นขึ้นมาว่า ต้องกลับมามีวินัยดูแลตัวเองแล้ว

ในตอนรับการดูแลรักษา มันต้องรับประทานเยอะๆ เพราะ โดยทั่วไปเราจะน้ำหนักลดอยู่แล้ว คราวนี้ เราจะต้องเน้นไปที่การกินของดี พวกอกไก่ ไข่ขาว ธัญพืช แป้งดีๆลดน้ำตาล ลดไขมันให้มากที่สุด บวกกับเริ่มออกกำลังกายด้วย ซึ่งอันที่จริงแล้ว เหตุผลสำหรับในการที่จะรับประทาน แต่ว่าของอร่อยและไม่ออกกำลังกายมีเยอะไปหมดเลย แถมเป็นเหตุผลที่ฟังขึ้นด้วย แต่ว่าก็เลือกกลับมาจริงจังกับเรื่องโภชนาการ แล้วก็ การออกกำลังกาย

ในวันที่ฝุ่นละอองน้อยๆ จะเริ่มจากการออกไปเดิน พยายามเดินให้ได้หมื่นก้าว ซึ่งมันใช้เวลานานมาก เดินได้สักพักก็เริ่มรู้สึกว่า เราจะต้องวิ่ง ก็ค่อยๆลองวิ่งถึงจะยังไม่ใช่ความเร็วเท่าเดิม แต่ว่าวิ่งได้ คุมการหายใจได้ แรกๆก็วิ่งได้ไม่กี่นาที แต่ว่าพอทำไปเรื่อยๆ ก็เริ่มวิ่งได้ระยะทางเพิ่มขึ้น ในแต่ละวัน ระยะแรกจะปวดขามากๆ เพราะ กล้ามเนื้อมันหายไปเยอะมาก ตอนที่นอนโรงพยาบาล จะต้องซ้อมอยู่หลายวันกว่าจะวิ่งตลอดได้สิบห้านาที เลยจะต้องเวทเทรนนิ่งควบคู่ไปด้วย

หมอ วิ่ง

ล่าสุด ก่อนรับยารอบนี้ก็เล่นได้ทุกท่า แต่ว่าน้ำหนักลดน้อยลง

จากที่เคยยกได้มากๆ ก็ค่อยๆซ้อม ค่อยๆหาสมดุลของร่างกาย เรียกความฟิตกลับมาเท่าที่ไหว หวังว่าวันหนึ่งจะกลับไปเล่นบาสได้ ซึ่งการทำอะไรประมาณนี้ มันรู้สึกว่าได้มีบางส่วนของชีวิตที่เราพอจะพยายาม เพื่อเปลี่ยนแปลงผลลัพธ์ของมันได้บ้าง ในส่วนของสิ่งที่เราทำได้เพียงแค่เชื่อ แล้วก็ ภาวนา คือ เรื่องการตอบสนองต่อยาเคมีบำบัด แล้วก็ ภูมิคุ้มกันบำบัด ส่วนนี้ เป็นสิ่งที่เราทำได้เพียงแค่ภาวนาให้น้องมะเร็งตอบสนองกับยาที่ให้ไปเพียงแค่นั้น

ซึ่งตอนนี้ เอกซเรย์ปอดดูดีขึ้น ก้อนใหญ่ทางด้านขวามีขนาดเล็กลง แล้วก็ ก้อนน้อยๆที่ปอดซ้ายก็ดูจางลง ผลข้างเคียงที่ชัดๆก็มีเพียงแค่ เรื่องผมร่วงกับอ่อนเพลีย ยังไม่มีผลข้างเคียงรุนแรงอะไร เป็นคนที่เชื่อในวิทยาศาสตร์ แล้วก็ หลักการทางวิจัยก็จริง การที่มันตอบสนองก็อาจจะมีกลไกของยาจากที่การศึกษาได้บอกไว้

แต่ว่าอีกส่วนหนึ่ง ผมก็เชื่อว่าเป็นเพราะว่ามีผู้หวังดีหลายๆท่าน ทั้งที่ผมรู้ แล้วก็ ที่ผมไม่รู้ ได้ทำการภาวนา สวดมนต์ไหว้พระทำบุญ รวมทั้ง อีกมากมายหลากหลายวิธีที่ผมก็พึ่งจะทราบดีว่ามันส่งพลังได้ เพื่อส่งมอบพลังดีๆให้กับผม เพื่อโรคนี้สงบ ให้ผมมีร่างกายแข็งแรง ผมขอบพระคุณมากๆจากใจจริงครับ

ผมเชื่อจริงๆว่า ส่วนของสิ่งที่ไม่ใช่วิทยาศาสตร์นี้ล้วนประกอบกันทำให้ในตอนนี้ การดูแลรักษาของผม ก็เลยเป็นไปได้ด้วยดี ตัวผมเองก็สวดมนต์ไหว้พระทำบุญอยู่ตลอด แล้วก็ หวังว่าทุกคนที่ส่งต่อพลังดีๆให้ผมจะได้พบเจอสิ่งดีๆในชีวิตเหมือนกันครับ

ในตอนนี้ดูเหมือนกับว่าเรื่องราวจะไปได้ดี โรคดูเหมือนจะตอบสนอง แต่ยังไงก็ตาม พวกเราต้องไปติดตามหลังจากได้รับการดูแลรักษาครบอีกครั้ง แล้วหลังจากนั้นก็จะต้องไปดูด้วยว่า ก้อนในหัวเล็กลงไหม มีก้อนใหม่ขึ้นที่อื่นๆในร่างกายไหม การต่อสู้นี้ยังอีกยาวไกล แต่ว่าตอนนี้เพียงแค่วันนี้เพียงแค่นั้น ที่ตนมีแรงลุกขึ้นยืนมาเดิน มาวิ่งได้ ออกมารับประทานข้าว แล้วก็ มาพิมพ์โพสต์นี้ได้ ขอให้ทุกคนใช้ชีวิตให้สนุก แล้วก็ มีสุขภาพร่างกายที่สมบูรณ์แข็งแรง.