Category ข่าววันนี้

F4 Thailand ร่อนจดหมาย

ต้นสังกัด GMM TV ร่อนจดหมายชี้แจงการสัมภาษณ์ 4 หนุ่ม F4 Thailand ที่กรุงไทเป

สังกัด GMM TV ร่อนจดหมายชี้แจงการสัมภาษณ์ 4 ชายหนุ่ม F4 Thailand ที่กรุงไทเป

จากกระแสในโลกออนไลน์เกี่ยวกับนักแสดงนำ F4 อย่าง “ไบร์ท, วิน, ดิว แล้วก็ นานิ” บินไปงานแฟนมีตติ้งที่ประเทศไต้ หวัน และในบางช่วงบางตอนมีรายงานข่าวสารว่านักแสดงกินบิสกิตระหว่างการสัมภาษณ์ รวมถึงมาสาย และไม่มีการขออภัยที่มาช้า ผู้จัดบอกเพียงแค่แต่ว่าเกิดจากความล่าช้า เนื่องจากว่าแต่งหน้าทำผม รวมทั้งมีอีกหลายประเด็นตามที่ข่าวได้เสนอไป

ก่อนหน้านี้ที่ผ่านมา ในเวลาต่อมาแฟน ๆ หลายคนเกิดเรื่องที่น่าสงสัยว่าเรื่องที่เกิดขึ้นประสานงานคลาดเคลื่อนหรือไม่ พร้อมแท็กไปยังสังกัดให้ชี้แจงเกี่ยวกับเรื่องนี้

F4 Thailand สังกัด

ล่าสุดต้นสังกัด GMM TV ได้ร่อนเขียนหมายชี้แจงเกี่ยวกับเรื่องนี้ว่า…

“จากกรณีที่มีการพูดถึงในสื่อโซเชียลเกี่ยวกับการสัมภาษณ์ของนักแสดง ที่กรุงไทเป เมื่อวันที่ 4 กุมภาพันธ์ 2566 บริษัทขอชี้แจงดังต่อไปนี้

1. ประเด็นเรื่องการมาสัมภาษณ์ล่าช้า การสัมภาษณ์ได้เกิดการล่าช้ากว่ากำหนดการจริง เนื่องมาจากไฟล์ทบินดีเลย์ จึงทำให้สัม ภาษณ์ล่าช้ากว่าเวลาที่นัดหมาย โดยทางผู้จัดงานได้แจ้งกับนักข่าวให้ทราบล่วงหน้าแล้ว ทั้งนี้บริษัทขออภัยในสิ่งที่เกิดขึ้นมา ณ ที่นี้

2. เรื่องพฤติกรรมไม่เหมาะสมของศิลปีนโดยมีการรับประทานขนมในระหว่างการสัมภาษณ์ เนื่องจากมีการเข้าใจผิดในการสื่อสารและประสานงานของทีมงาน ทำให้ศิลปินมีความเข้าใจว่าในช่วงต้นยังเป็นช่วงของการเตรียมความพร้อมและยังไม่ได้เริ่มถ่ายภาพและสัม ภาษณ์ จึงทำให้มีการรับประทานขนมในช่วงเวลาระหว่างรอ ทั้งนี้เมื่อได้มีการชี้แจงให้ศิลปินทราบ ทางศิลปินจึงเตรียมพร้อมให้สัมภาษณ์กับทางสื่อมวลชนต่อตามปกติ โดยทีมงานจึงได้แจ้งสื่อมวลชนขอให้ไม่ใช้ภาพดังกล่าว

จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ศิลปินและบริษัทขอน้อมรับผิดที่ทำให้เกิดความไม่สบายใจกับหลายๆ ฝ่าย และจะระมัดระวังไม่ให้เหตุการณ์เช่นนี้เกิดขึ้นอีกในอนาคต รวมทั้งจะมีการสื่อสารที่ชัดเจนเพื่อไม่ให้เกิดความเข้าใจผิดต่อไป จึงเรียนมาเพื่อทราบโดยทั่วกัน บริษัท จีเอ็มเอ็มทีวี จำกัด 5 กุมภาพันธ์ 2566
และยังเขียนข้อความอีกว่า… “GMMTV ขอชี้แจงเกี่ยวกับประ เด็นการสัมภาษณ์ของนักแสดง ที่กรุงไทเป GMMTV Statement Regarding the Incidents During the Interview on February 4 in Taipei #GMMTV”

F4 Thailand ชี้แจง

รู้จักซีรีส์สุดฮอต F4 Thailand นักแสดงมีใครบ้าง-เรื่องย่อเป็นอย่างไร?

กำลังเป็นกระแสกล่าวถึงอยู่ในขณะนี้ สำหรับซีรีส์ F4 Thailand : BOYS OVER FLOWERS หัวใจรักสี่ดวงดาว โดยละครเรื่องนี้ถือเป็นละครอมตะตลอดกาล เรียกได้ว่าไม่มีเด็ก ๆ ยุค 90 คนไหนที่ไม่รู้ ซึ่ง หัวใจรักสี่ดวงดาว ของเมืองไทย ปรับปรุงแก้ไขดัดแปลงมาจากการ์ตูนมังงะญี่ปุ่น ของโยโกะ คามิโอะ ซึ่งมีชื่อเดิม สาวแกร่งแรงเกินร้อย ต่อมาได้ถูกดัดแปลงเป็นละครโทรทัศน์ของประเทศไต้หวัน ซึ่งเวอร์ชั่นนี้เป็นเวอร์ชั่นที่โด่งดังเป็นอย่างมากในภูมิภาคเอเชีย จนถึงมีรีเมกอีกครั้งในญี่ปุ่น เกาหลีใต้ แล้วก็ จีน

โดย F4 : BOYS OVER FLOWERS หัวใจรักสี่ดวงดาว ได้ถูกนำมารีเมกในประเทศไทยอีกที
นำแสดงโดย “ไบร์ท-วชิรวิชญ์ ชีวอารี, วิน-เมธวิน โอภาสเอี่ยมขจร, นานิ-หิรัญกฤษฎิ์ ช่างคำ, ดิว-จิรวรรตน์ สุทธิวณิชศักดิ์” สำหรับนางเอกคือ“ตู-ต้นตะวัน ตันติเวชกุล”

F4 Thailand : BOYS OVER FLOWERS หัวใจรักสี่ดวงดาว ออกอากาศทางช่องGMMTV
รวมทั้งย้อนหลังทางวิว ทุกวันเสาร์เวลา 20:30 น. ตั้งแต่วันที่ 18 ธันวาคม ปีที่แล้ว

F4 Thailand จดหมาย

เรื่องย่อ “ F4 Thailand : BOYS OVER FLOWERS หัวใจรักสี่ดวงดาว”

เรื่องราวของ “กอหญ้า” (ตู-ต้นตะวัน) เด็กสาวม.5 ชีวิตเรียบ ๆ ง่าย ๆ คนหนึ่ง ครอบครัวของเธอมีฐานะที่ยากจนข้นแค้น จนถึงทำให้เธอต้องทำงานเสริมที่ร้านดอกไม้แห่งหนึ่งกับ “คะนิ้ง” (รับบทโดย พรีม-ชนิกานต์) เพื่อนสนิทของเธอ ชีวิตของกอหญ้าเป็นชีวิตที่เรียบง่ายและไม่มีอะไรเด่น

จะมีก็แค่อย่างเดียวคือเธอดันสอบติดโรงเรียนหรูโด่งดัง กระทั่ง เธอกลายเป็นความหวังของครอบครัวอย่างช่วยไม่ได้ แต่โลกของนักเรียนไฮโซมันช่างประดิษฐ์ และน่ารำคาญในสายตาของเธอ เธอเลยตัดสินใจที่จะดำเนินชีวิตเงียบ ๆ และไม่เด่นให้ได้มากที่สุด ซึ่งเป็นชีวิตที่ต่างกับพวกเขาอย่างสิ้นเชิง

“ธาม” (ไบร์ท-วชิรวิชญ์) “เร็น” ( ดิว-จิรวรรตน์) “กวิน” (วิน-เมธวิน) “เอ็มเจ” (นานิ-หิรัญกฤษฎิ์) กลุ่มรุ่นพี่ม.6 ในโรงเรียน ที่ทุกคนรู้จักกันดีในชื่อ F4 พวกเขาเป็นหนุ่มสุดหล่อลูกเจ้าของธุรกิจหลายหมื่นล้าน เป็นผู้ชายสี่คนที่ฉายแสงแล้วก็มีอำนาจมากที่สุดในโรงเรียน ใคร ๆ ต่างก็จ้องไปที่พวกเขา

อีกทั้งที่ตามความเป็นจริงพวกเขาตั้งตัวเป็นอันธพาลในโรงเรียนอย่างลับ ๆ และก็พร้อมจะกลั่นแกล้งทุกคนที่ขวางหูขวางตาพวกเขาอย่าง ร้ายแรง ผ่านเกม“การติดใบแดง” ไม่มีใครทำอะไรพวกเขาได้ นักเรียนคนอื่น ๆ ก็ต่างเห็นดีเห็นชอบเห็นงามไปกับพวกเขาด้วย เหมือนว่าโลกใบนี้อยู่ในกำมือของพวกเขาอย่างไรอย่างนั้น แล้วก็กอหญ้า ก็เกลียดสิ่งนี้มาก

แต่แล้วโชคชะตาก็นำพาให้เธอต้องยุ่งเกี่ยวกับพวกเขา ทั้งกับ “ธาม” ผู้นำของกลุ่มที่ดูเหมือนจะสนใจในตัวเธอและกลั่นแกล้งเธออย่างหนัก อีกทั้งกับ “เร็น” ผู้ชายเงียบ ๆ โลกส่วนตัวสูงแต่กลับมีเสน่ห์บางอย่างที่ทำให้เธอหลงรัก และสุดท้ายคนอย่างเธอ

ก็กำลังจะกลายเป็นศูนย์กลางของเรื่องราวทุกอย่าง เป็นโลกอีกใบที่ทำให้เธอได้รู้ดีว่าชีวิตวัยรุ่นมันไม่เคยง่ายเลยรวมทั้งมันคงง่ายกว่านี้ ถ้า “เร็น” ไม่ได้ตกหลุมรัก “มิรา” ( ฟ้า-ยงวรี) รุ่นพี่ผู้หญิง ที่อีกทั้งสวย แถมยังอยู่ในเชื้อสายที่สูงศักดิ์แล้วก็ใจดี ต่างจากเธออย่างสิ้นเชิงและก็ถ้าเกิด “คะนิ้ง”

ไม่ได้ตกหลุมรักหนุ่มเจ้าชู้ที่มองเห็นผู้หญิงทุกคนเป็นของเล่นอย่าง “กวิน” และไม่มีวันหลงเสน่ห์ผู้หญิงบ้าน ๆ อย่างเธอ และก็ถ้าหาก “ธาม” ไม่ได้ถูกคาดหวังจาก “รสลิน” (ซินดี้-สิรินยา) นักธุรกิจหญิงเหล็กแม่แท้ ๆ ของเขา ที่ไม่มีทางยอมชีวิตของ “ธาม” ออกไปนอกกรอบ

ที่เธอได้วางเอาไว้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเรื่องความรัก แต่ “กอหญ้า” เองก็กลับค่อย ๆ ใจเต้นแรงกับ “ธาม” แบบไม่ทันรู้ตัว

หากชีวิตวัยรุ่นคือตอนวัยที่ฉายแสงมากที่สุด นี่คือเรื่องราวของผู้หญิงตัวเล็ก ๆ คนหนึ่งที่กำลังจะผ่านตอนวัยรุ่นอันแสนเจิดจ้านี้ไปท่ามกลางผู้ชายที่ทุกคนเฝ้ามอง ก้าวผ่านอุปสรรค ความผิดพลาด มิตรภาพ กำลังใจ ความสุข ความทุกข์ รวมทั้งได้ศึกษาสิ่งที่เรียกว่าความรัก ก่อนที่พวกเขาจะประสานมือก้าวไปสู่โลกของผู้ใหญ่ไปพร้อม ๆ กัน

 

ชูวิทย์ พร้อมพยาน

ตร. เล็งสอบต่อ สกาย หลัง ชูวิทย์ แถลงปมโดนรีด 2.7 หมื่นแลกปล่อยตัว

ชูวิทย์ และ สกาย ตำรวจเตรียมตัวสอบปากคำนักท่องเที่ยวชาวสิงคโปร์ ปมจ่าย 2.7 หมื่น ตำรวจแลกเปลี่ยนปล่อยตัว ที่โรงแรมเดอะเดวิส ในช่วง 15.00 น. วันนี้ ก่อนนำข้อมูลลงสำนวน เตรียมฟ้องร้องคดีจำนวน 7 นาย

จากกรณีช่วงเย็นวานนี้ (31 ม.ค.) นายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ ออกมาโพสต์รูปภาพคู่กับนักท่องเที่ยวชาวประเทศสิงคโปร์ หรือนายสกาย เพื่อนชายของเน็ตไอดอลสาวชาวไต้หวัน ที่ออกมายอมรับก่อนหน้านี้ว่า เป็นคนจ่ายเงินจำนวน 27,000 บาท ให้กับตำรวจ สถานีตำรวจห้วยขวาง ขณะตั้งด่านตรวจหน้าสถานทูต จีนช่วงกลางดึก ต้นเดือน ม.ค.ที่ผ่านมา นั้น

คืบหน้าเมื่อเวลา 11.00 น. วันที่ 1 ก.พ. พล.ต.ต.อัฎธพร วงศ์ศิริปรีดา ผบก.น.1 เดินทางเข้าประชุมกับชุดเจ้าหน้าที่สอบสวน ติดตามประเด็น ศิลปินสาวชาวไต้หวัน ถูกตำรวจห้วยขวางไถเงิน โดย พล.ต.ต.อัฎธพร เปิดเผยก่อนเข้าประชุมว่า ตำรวจเตรียมสอบปากคำนักท่องเที่ยวชาวประเทศสิงคโปร์ ที่โรงแรมเดอะเดวิส ในช่วง 15.00 น. วันนี้ ก่อนนำข้อมูลลงสำนวน จัดแจงฟ้องจำนวน 7 นาย โดยนายชูวิทย์ จัดเตรียมนำนักท่องเที่ยวชาวสิงคโปร์ ออกมาแถลงข่าวในเวลา 14.00 น. ของวันนี้

ชูวิทย์ สกาย

ล่าสุดมีกล่าวว่า นักท่องเที่ยวชาวสิงคโปร์ติดต่อผ่าน

พล.ต.ต.อาชยน ไกรทอง โฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เพื่อ พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผู้บังคับการกองบังคับการสืบสวนสอบสวนกองบัญชาการตำรวจนครบาล เข้าพบเพื่อซักถามเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ในเวลา 15.00 น. โรงแรมเดอะเดวิส สุขุมวิท 24 เนื่องด้วยไม่สะดวกเดินทางไปพบพนักงานที่มีหน้าที่สำหรับสอบสวนที่ กองบัญชาการตำรวจนครบาล รวมทั้งต้องการให้นายชูวิทย์ ร่วมเป็นประจักษ์พยาน ในการให้ถ้อยคำรวมทั้งให้ข้อมูลดังกล่าว ส่วนภายหลังการสอบปากคำแล้ว จะนำข้อมูลดังกล่าวมาพิจารณาประกอบการดำเนินคดีกับตำรวจได้หรือไม่นั้น ขึ้นกับการให้การของนักท่องเที่ยวชาวประเทศสิงคโปร์ ในวันนี้

ขณะที่ พล.ต.ต.อัฏธพร วงศ์ศิริปรีดา ผู้บังคับการตำรวจนครบาล 1 เปิดเผยก่อนประชุมกับทีมพนักงานที่ทำหน้าที่สอบสวน ชุดคลี่คลายคดีตำรวจรีดไถเงินนักท่องเที่ยวชาวไต้หวัน ว่า หลังได้ข้อมูลจากนักท่องเที่ยวชาวประเทศสิงคโปร์ในช่วงบ่ายวันนี้ พนักงานที่มีหน้าที่สำหรับสอบสวนจะนำข้อมูลมาประกอบสำนวน เพื่อพิจารณาดำเนินคดีอาญามาตร 149 กับตำรวจอีกทั้ง 7 นาย จากเดิมที่ตั้งข้อหามาตรา 157 กับตำรวจเพียง 2 นาย ประกอบด้วยตำรวจชั้นประทวน 1 นาย แล้วก็ตำรวจชั้นสัญญาบัตรอีก 1 นาย ส่วนที่เหลืออีก 5 นาย อยู่ระหว่างการสอบปากคำ กระทั่งช่วงเย็นวานนี้ มีการตรวจสอบเพิ่มพบว่าตำรวจอีกทั้ง 5 นาย ที่ปรากฏอยู่ในคลิป มีข้อพิรุธสงสัยอาจมีส่วนทราบเรื่องด้วย ก็เลยจะดำเนินการเอาผิดด้วยทั้งหมด แต่รอผลการสอบสวนนักท่องเที่ยวชาวสิงคโปร์ในช่วงบ่ายวันนี้อีกที

อย่างไรก็ตามในส่วนการดำเนินคดีกับนักท่องเที่ยวชาวประเทศสิงคโปร์ ในฐานะผู้ให้สินบนนั้น ยังไม่สามารถดำเนินการได้ในขณะนี้ เพราะว่าการจะฟ้องร้องในข้อหานี้ได้ นักท่องเที่ยวชาวประเทศสิงคโปร์ต้องอยู่ในฐานะผู้เสนอติดสินบนเจ้าหน้าที่ ไม่ได้ถูกขู่เข็ญบังคับ โดยเหตุนั้นการสอบปากคำนักท่องเที่ยวสิงคโปร์ในบ่ายวันนี้จึงสำคัญมากแล้วก็เป็นการสอบปากคำในฐานะผู้เห็นเหตุการณ์ โดยทีมสอบสวนได้จัดเตรียมภาพถ่ายตำรวจชุดตั้งด่านในวันเกิดเหตุทั้งยัง 14 นาย ให้ผู้เสียหายชี้ใน 3 ประเด็นหลักๆคือ จ่ายเงินให้กับใคร/ใน 14 คนนี้ มีใครบังคับขู่เข็ญเรียกเงิน แล้วก็มีใครมีส่วนทราบเหตุการณ์จาการรีดรับเงินในคราวนี้บ้าง

ส่วนกรณีมีกระแสข่าวสารตำรวจจะเดินทางไปสอบปากคำเน็ตไอดอลสาวที่ประเทศไต้หวันนั้น การจะเดินทางไปหรือไม่ ขึ้นอยู่กับผลการสอบปากคำชาวสิงคโปร์ในช่วงบ่ายแม้พบว่า ผู้เสียหายชาวสิงคโปร์เป็นคนจ่ายเงิน 27,000 บาท เพียงแค่คนเดียว ก็ไม่มีความต้องที่ต้องไปสอบสวนเน็ตไอดอลสาว เพราะเหตุว่าไม่ใช่ผู้เสียหาย แต่ผู้เสียที่หายที่แท้จริง คือนักท่องเที่ยวชาวประเทศสิงคโปร์ แต่แม้ผลการสอบสวนพบว่าเน็ตไอดอลสาว ร่วมจ่ายเงินด้วยหากแม้เพียงแต่บาทเดียว ตำรวจก็จำเป็นจะต้องต้องเดินทางไปสอบคำให้การเน็ตไอดอลสาวไต้หวันด้วย ในฐานะผู้เสียหายร่วม

นอกเหนือจากนั้น นักข่าวพยายามถามไถ่กรณีการโยกย้าย พ.ต.อ.ยิ่งยศ สุวรรณโณ ผู้กำกับการสถานีตำรวจห้วยขวาง ไปเป็น ผู้กำกับการสน.หนองจอก ใช่บทลงโทษจากกรณีนี้หรือไม่ ผู้บังคับการตำรวจนครบาล 1 กำหนดเพียงแต่สั้นๆว่า ตนไม่รู้ ทุกอย่างเป็นดุลพินิจของผู้บังคับบัญชา

ชูวิทย์ แถลงปม

‘ชูวิทย์’ เปิดผู้เห็นเหตุการณ์ชาวสิงคโปร์ ย้ำ ตร.ไถเงินจริง เปิดเผยพูดไทยด้วยโดนสวนกลับ “อย่ากวนตีน”

‘ชูวิทย์’ เปิดตัว ‘สกาย’ ผู้เห็นเหตุการณ์ชาวประเทศสิงคโปร์ รับถูกตร.รีดไถเงินจริง แจงราคาค่าเสียหายบุหรี่ไฟฟ้าอันละ 8,000 ไม่พกพาสปอร์ตเล่มละ 1,000 เผยกล่าวไทยด้วยแต่โดนสวนกลับ “อย่ากวนตีน” ยันไม่เมา-จำหน้าได้ทุกคน
เวลา 14.00 น. วันที่ 1 เดือนกุมภาพันธ์ 2566 ชูวิทย์ กมลวิศิษฐ์ อดีตหัวหน้าพรรครักประเทศไทย จัดแถลงข่าวกรณีของ อันหยูชิง หรือ Charlene An ดาราสาวไต้หวันกับกลุ่มเพื่อนที่บอกว่าถูกตำรวจตั้งด่านรีดไถเงิน 27,000 บาท โดยก่อนแถลงชูวิทย์ได้ตีปี๊บ และก็พูดว่าจะนำปี๊บดังกล่าวไปฝากให้ พล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง ผู้บัญชาการตำรวจนครบาลคลุมศรีษะไว้ เพื่อหลบซ่อนจากข้อเท็จจริงที่จะเปิดเผย

ชูวิทย์ กล่าวว่า การตั้งด่านของเจ้าหน้าที่มีการทำเป็นขบวนการ จัดสรรแบ่งส่วนให้กับผู้ที่ปฏิบัติงาน การตั้งด่านนี้ทำลายภาพลักษณ์ของการท่องเที่ยว โดยเฉพาะในช่วงนี้ ที่มีการเปิดประเทศต้อนรับนักท่องเที่ยวกลับมาอีกรอบหลังสถานการณ์โควิด 19 ด้วยเหตุว่าแทนที่นักท่องเที่ยวจะกลัวโจร กลับต้องมากลัวตำรวจที่ควรจะดูแลความปลอดภัยของพวกเขา

“ถ้าหากถึงวันนี้ตำรวจต้องการจะคืนเงิน 27,000 บาทให้กลุ่มผู้เสียหายตนก็เชื่อว่าเขาจะไม่รับแล้ว เนื่องจากทั้งหมดไม่ได้รับความยุติธรรม ทั้งที่ผ่านมายังถูกเจ้าหน้าที่ใส่ร้ายมาตลอด ถ้าเทียบตำรวจไม่ดีเป็นนิ้วร้ายที่ต้องเอาทิ้ง มั่นใจว่าวันนี้ไม่มีนิ้วเหลือให้ตัดแล้ว” ชูวิทย์ เจาะจง

ชูวิทย์เล็ง

จากนั้น เวลา 14.20 น. ชูวิทย์ ได้เชิญ สกาย ชาวสิงคโปร์ เพื่อนของอันหยูชิง มาร่วมแถลงข่าว

โดย สกาย กล่าวว่า ถ้าไม่ไว้ใจ ชูวิทย์ ก็คงไม่เดินทางมา วันที่เกิดเรื่องตนกับกลุ่มเพื่อนและก็อันหยูชิง ไปร่วมงานวันเกิดเพื่อนอีกกลุ่ม หลังจากนั้น ระหว่างเดินทางกลับโรงแรมที่พัก ซึ่งอยู่บริเวณถนนหนทางรัชดาภิเษก เจอตำรวจตั้งด่านใช้ไฟฉายส่องเข้ามาในรถแท็กซี่ที่นั่งอยู่ โดยเจ้าหน้าที่ประจำด่าน บอกให้จอดรถเข้าข้างทางแล้วก็ให้ทุกคนลงจากรถ ก่อนเข้ามาจับตามตัว ค้นกระเป๋า ขอให้นำพาสปอร์ตออกมาแสดง รวมถึงให้ถอดรองเท้าด้วย ทั้งนี้ ในวันดังกล่าวตนไม่ได้นำพาสปอร์ตออกมาจากที่พัก

สกาย กล่าวต่อว่า จากตรวจค้น เจ้าหน้าที่เจอบุหรี่ไฟฟ้า 3 อัน พร้อมถามต่อว่ามาจากประเทศไหน โดยในตอนนั้น ทางกลุ่มเองเริ่มสงสัยแล้วว่า เพราะเหตุไรตำรวจทำเหมือนเป็นเรื่องใหญ่ ทั้งยังสั่งห้ามใช้โทรศัพท์ ห้ามติดต่อใคร หรือถ่ายรูป ซึ่งในเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ฝั่งตนมีเพียงแค่ตัวเองที่สื่อสารภาษาไทยได้

นอกเหนือจากนั้น สกาย อ้างด้วยว่า ระหว่างที่ตนถามถึงสาเหตุของการตรวจค้น ทางเจ้าหน้าที่ตอบกลับมาว่า “อย่ากวนตีน” ซึ่งมั่นใจว่าตนและก็เพื่อนไม่ได้ทำผิดกฎหมายแน่นอน เพราะว่าตามปกติแล้ว การเดินทางเข้าประเทศไทย คนประเทศสิงคโปร์ไม่ต้องต้องมีวีซ่ายกเว้นกรณีที่อยู่อาศัยเกินกว่า 30 วันขึ้นไป ซึ่งตนเดินทางมาเมื่อวันที่ 25 ธันวาคม 2565 เพื่อฉลองเทศกาลปีใหม่รวมทั้งอยู่ต่อเนื่องมาจนถึงวันที่ 5 ม.ค. 2566 ที่เป็นวันกำหนดเดินทางกลับ

ในส่วนของหนังสือเดินทางที่เจ้าหน้าที่พยายามเรียกดู ตนได้ตอบไปว่าเอกสารต่างๆอยู่ที่ที่พัก และมีรูปแสกกลางนเก็บเอาไว้ในโทรศัพท์ แต่เจ้าหน้าที่ไม่ฟังและพยายามโต้แย้งว่าต้องแสดงเอกสารทันที ห้ามไปไหน และพยายามแจ้งว่าการที่นำพาบุหรี่ไฟฟ้าเป็นความผิด

สกาย ก็เลยแจกแจงต่อไปว่า บุหรี่ไฟฟ้าซื้อมาจากร้านค้าที่วางขายย่านตลาดห้วยขวาง แล้วก็ไม่รู้ว่าผิดกฎหมาย เพราะเห็นวางขาย โดยปกติ และก็ การมาเมืองไทยครั้งนี้ เพราะว่าต้องการออกมาบอกความจริงทั้งหมด ไม่รู้สึกกังวลในการให้ข้อมูลกับตำรวจ

เมื่ออธิบายเรื่องบุหรี่ไฟฟ้าเสร็จ เจ้าหน้าที่เริ่มมีท่าทีขุ่นเคือง พูดว่าทั้งหมดต้องไปสถานีตำรวจรวมทั้งต้องอยู่ที่กรงขังในสน.อย่างน้อยอีก 2 วัน เมื่อพูดจาอยู่ระยะหนึ่ง เจ้าหน้าที่อีกรายที่ไม่ได้ใส่เครื่องแบบตำรวจก็เข้ามาขยายความให้ตัวเองฟังว่า “บุหรี่ไฟฟ้า 3 อัน อันละ 8,000 บาท ส่วนที่ไม่พบพาสปอร์ต 3 คน อีก 3,000 บาท รวมเป็นเงิน 27,000 บาท”

โดย สกาย เปิดเปิดเผยว่า ขณะนั้นมีเงินติดตัวอยู่ 30,000 บาท เมื่อจ่ายเงินเรียบร้อย ตำรวจก็เรียกแท็กซี่ให้และก็ให้บอกแท็กซี่ว่าจะไปไหนต่อ ยืนยันว่า ตำรวจกลุ่มดังกล่าวแสดงท่าทีแล้วก็พูดจาในลักษณะคาดคั้นให้จ่ายเงิน และตัวเองไม่ได้เสนอให้

ดังนี้ ตำรวจที่เข้ามาบอกคุยเรื่องเงินมี 3 นาย โดยนายแรก เป็นตำรวจนอกเครื่องแบบ สวมแจ็คเกต มีหนวดเครา ทำหน้าที่ในการเรียกและรับเงินจาก สกาย รวมทั้งเก็บเงินเข้ากระเป๋าตนเอง ส่วนตำรวจนายที่ 2 รูปร่างสูงใหญ่ ศีรษะล้าน ทำหน้าที่บังกล้องวงจรปิด ส่วนตำรวจนายที่ 3 เป็นคนรูปร่างซูบผอม ใส่ผ้าคลุมหน้าเข้ามาร่วมรับฟังการพูดคุยด้วย

“ส่วนตัวรู้สึกว่าเจ้าหน้าที่ต้องมีเหตุผล หากอยากจับก็จะต้องมีเหตุผล ถ้าเกิดสงสัยอะไรก็ต้องกล่าวคุย แต่สิ่งที่เกิดตำรวจไม่มีเหตุผลอะไรรวมทั้งกล่าวว่าต้องไปสถานีตำรวจอย่างเดียว” สกาย เจาะจง

ขณะเดียวกัน ชูวิทย์ ได้จัดทำแฟ้มรายนามพร้อมรูปภาพของตำรวจ สังกัดสถานีตำรวจนครบาล (สถานีตำรวจ) ห้วยขวาง มาจำนวนหนึ่ง และก็เปิดให้ สกาย ดูก่อนถามคำถามว่า จดจำใครได้บ้าง ซึ่ง สกาย ก้มศีรษะตอบรับ พร้อมยืนยันว่าจำได้ทุกคน

ในตอนท้ายชูวิทย์ กล่าวว่า ในนามของคนไทยต้องขอโทษถึงการกระทำของตำรวจ พร้อมเรียกร้องให้ผู้บัญชาการตำรวจนครบาลลาออกด้วย

อย่างไรก็ดี เวลาประมาณ 15.30 น. สกาย ลุกออกจากบริเวณแถลงข่าว พร้อมด้วยที่ พล.ต.ต.อาชยน ไกรทอง โฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ พล.ต.ต.อัฏธพร วงศ์ศิริปรีดา ผู้บังคับการตำรวจนครบาล 1 เดินทางมาร่วมพิจารณาการณ์การสอบปากคำผู้เห็นเหตุการณ์คนสำคัญใน โดยได้ให้คณะกรรมการและทีมพนักงานที่ทำหน้าที่ในการสอบสวน 4-5 นาย ร่วมสอบปากคำผู้เห็นเหตุการณ์อย่างละเอียดและครอบคลุมทุกประเด็นต่อไป

ดาราสาวไต้หวัน ความคืบหน้า

ระเบิดลงนครบาล ชูวิทย์ แฉ ตำรวจรีดเงิน ดาราสาวไต้หวัน จริง ซ้ำแต่งเรื่อง ทำลายหลักฐาน

ความคืบหน้ากรณี ดาราสาวไต้หวัน โพสต์ข้อความ ลงสื่อออนไลน์ กล่าวหาว่า เธอถูกตำรวจ สน.ห้วยขวาง เรียกรับเงิน มากถึง 27,000 บาท แลกเปลี่ยนกับการ ถูกปล่อยตัว ระหว่างถูกตรวจหาในด่านของตำรวจ ขณะเดินทาง มาท่องเที่ยวไทย ตอนปีใหม่ ซึ่งตำรวจ ก็ได้ออกมา ยืนยันว่า ไม่ได้มี การเรียกรับเงิน

พร้อมระบุว่า ดาราสาวไต้หวันมีอาการมึนเมา และค้นพบบุหรี่ไฟฟ้าในกระเป๋าซึ่งผิดกฎหมาย แต่ก็ไม่ได้มี การดำเนินคดีใดๆก็ตาม โดยมีพยาน เป็นผู้ขับแกร็บ และคนขับแท็กซี่ ที่รับส่ง ดาราสาวไต้หวัน ในคืนเกิดเหตุ

ล่าสุด (30 ม.ค.66) เมื่อเวลา 01.00 น. ผู้รายงานข่าวรายงานว่า นายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ ผู้เผยโฉมขบวนการทุนจีนสีเทา ได้โพสต์ภาพในเฟซบุ๊กส่วนตัว ขณะเจ้าตัวใส่เสื้อกล้ามสีดำ ยืนเอามือปิดจมูกที่หน้า สน.ห้วยขวาง พร้อมระบุข้อความว่า

ดาราสาวไต้หวัน ถูกรีดเงิน

ด่วนที่สุด! ตำรวจรีดเงิน ดาราสาวไต้หวัน จริง

ระเบิดลงนครบาล!

เมื่อเย็นนี้ ผบช.น. ให้โฆษกฯ แถลงข่าวยืนยันว่า ตรวจสอบแล้ว ไม่มีตำรวจห้วยขวางเรียกรับผลประโยชน์แต่ปรากฏว่า มีหญิงคนไทย แฟนเป็นคนประเทศสิงคโปร์ ที่ไปร่วมวงพบปะดื่มเหล้ากับดาราสาวไต้หวัน

ให้การยืนยันว่า ได้เป็นผู้จ่ายเงินจำนวน 27,000 บาท ให้กับตำรวจที่ตั้งด่านด้วยตัวเอง! และมีคลิปยืนยันด้วย เพราะเห็นว่าการแถลงข่าวเมื่อเย็นของนครบาลยังปากแข็ง ไม่ยอมรับ

ทำให้ตำรวจห้วยขวางชุดที่ตั้งด่าน เพิ่งจะรับสารภาพสดๆร้อนๆว่ารีดเงิน 27,000 บาท จริง!

ก่อนหน้านี้ ผบช.น. พล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง ใช้ให้ลูกน้อง พล.ต.ต.อัฏธพร วงศ์ศิริปรีดา ผู้บังคับการ น.1 และ พ.ต.อ.ยิ่งยศ สุวรรณโณ ผู้กำกับ สน.ห้วยขวาง ไปวางแผนทำขายหน้า หลายเรื่อง

1. ลบคลิปที่ด่านหน้าสถานทูตจีน

2. ลบคลิปกล้องบนหมวกของตำรวจที่ด่าน

3. กล่อมให้คนขับแกร็บยืนยันว่าดาราสาวไต้หวันเมามาก พูดไม่รู้เรื่อง อยู่ที่ด่านเพียงแค่ 40 นาที แล้วอ้างว่ากล้องหน้ารถบันทึกได้แค่ 20 วัน จึงไม่มีภาพ

4. ปล่อยคลิปสารพัดเพื่อดิสเครดิตดาราสาวไต้หวัน

5. ตอบโต้ แก้ตัวแทนลูกน้องตัวเอง โยนไปว่าสาวไต้หวันปั้นเรื่อง

ชูวิทย์แฉ

ผบ.ตำรวจ เห็นท่าไม่ดี สั่งการให้ พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผู้การฯ ศูนย์สืบสวนนครบาล รีบบินด่วนเพื่อไปสอบปากคำจากดาราสาวไต้หวัน

พร้อมกับที่สาวไทยที่ไปเที่ยวด้วยกัน มาให้ข้อมูลว่าเป็นคนจ่ายเงิน 27,000 บาทด้วยตัวเอง

ทีม บชน. ก็เลยชิงกลับลำ ให้ตำรวจห้วยขวางสารภาพเสียดีกว่า ระเบิดจึงลงที่นครบาลอีกรอบ พังไม่เป็นท่า วันจันทร์คงแบกหน้าสารภาพผิด

เรื่องสำนวน “ตู้ห่าว” ยังมีกลิ่นตุๆไม่หาย ยังมาทำเรื่อง “สาวไต้หวัน” ให้กลิ่นเหม็นเน่าเข้าไปอีก

เพิ่งจะเปิดประเทศรับนักเดินทาง กลับพบด่านรีดไถ เพราะว่าบุหรี่ไฟฟ้า ทำให้เอี้ยวไม่พอ ที่สำคัญยังไป “แต่งเรื่อง” ทำลายหลักฐาน ไม่ยอมรับความจริง กลับโทษสาวไต้หวันคนพูดความจริงเสียอีก

ตำรวจนครบาลภายใต้การกำกับของ พล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง เจ้าเก่าอีกแล้ว แทนที่จะกล้ายอมรับความจริง จัดการให้คนต่างชาติเขาเห็นว่า พวกเราเอาจริงกับตำรวจรีดไถ ดันแต่งเรื่องช่วยปกป้องคนผิด โยนว่าสาวไต้หวันเมา

ผมบอกท่านนายกฯ ไว้แล้ว เมื่อวันไปพบที่ศูนย์ประชุมสิริกิติ์ ดันไม่เชื่อผม ให้ ผบช.น. คนนี้อยู่นครบาลต่อไป ยังมีระเบิดลงอีกเป็นลูกระนาด

ดาราสาวไต้หวัน บอก

ดาราสาวไต้หวัน​ ท้า​ตำรวจไทย​เปิดกล้อง CCTV​ ผกก.สน.ห้วยขวาง​ เผยรอปล่อยทีเดียว

ดาราสาวไต้หวัน​ ท้าตำรวจไทย​ เปิดกล้อง CCTV​ ด้านผกก.สน.ห้วยขวาง​ เปิดเผย​ รอความชัดเจนแล้วปล่อยทีเดียว วันนี้​ (27​ เดือนมกราคม​ 66) พันตำรวจเอกยิ่งยศ สุวรรณโณ ผู้กำกับการสถานีตำรวจนครบาลห้วยขวาง กล่าวถึงความคืบหน้ากรณีดาราสาวชาวไต้หวันอ้างว่าถูกตำรวจไทยตั้งด่านรีดทรัพย์ 27,000 บาท ขณะที่มาเที่ยวไทยตอนปีใหม่ที่ผ่านมา ภายหลังได้เรียกให้คนขับแกร็บ รถมาสด้าสีแดง ที่ขับพาดาราสาวเข้ามาในจุดเกิดเหตุ ว่า เบื้องต้นได้หลักฐานมาแล้วพอสมควร

ขณะเดียวกันตอนนี้ดาราสาวชาวไต้หวันไม่ได้อยู่ในประเทศไทย แต่จะมีการเรียกตัวกลับมาให้ข้อมูลหรือไม่ ต้องรอดูว่าสำนักงานตำรวจแห่งชาติจะว่าอย่างไร

เมื่อถามคำถามว่าจากการไต่สวนพยานรวมทั้งตรวจสอบกล้องวงจรปิดแล้วบางส่วน ยังคงมั่นใจในตำรวจใต้บังคับบัญชาหรือไม่ ว่าไม่ได้มีการเรียกรับผลประโยชน์ตามการกล่างอ้างของดาราสาวชาวไต้หวัน พันตำรวจเอกยิ่งยศ กล่าวว่า ในส่วนนี้อยู่ที่พยานหลักฐาน

เมื่อถามย้ำว่าสรุปแล้วมีการเรียกรับเงิน 27,000 บาท หรือไม่ พันตำรวจเอกยิ่งยศ ยังคงย้ำว่า ยังตอบในจุดนี้ไม่ได้ เพราะว่าอยากให้รอพยานหลักฐานชัดเจนก่อน จึงจะสามารถสรุปได้

ดาราสาวไต้หวัน สัมภาษณ์

ทั้งนี้ หากผลออกมาแล้วไม่ได้เป็น จากที่ดาราสาวชาวไต้หวันกล่าวอ้าง

จะมีการตั้งข้อกล่าวหาหรือไม่ผกก.สถานีตำรวจนครบาลห้วยขวาง กล่าวว่า ขณะนี้ยังไม่มี รอให้เป็นไปตามหลักฐาน และถ้าเป็นคนประเทศไทยทำเหตุการณ์แบบนี้ จะเป็นอย่างไร้บ้างนั้น พันตำรวจเอกยิ่งยศ กล่าวว่า อย่าพึ่งจะเทียบเคียงกันดีกว่าเพราะในส่วนนี้ก็เป็นเรื่องของข้อกฎหมาย

ขณะเดียวกันดาราสาวชาวไต้หวันได้โพสต์ Story IG ทำนองว่าให้ตำรวจไทยหยุดกล่าวหาเธอได้แล้ว และให้ตำรวจไทยเปิดหลักฐานกล้อง CCTV ออกมามองประเด็นนี้ อย่างไรบ้าง ผกก.สน.ห้วยขวาง กล่าวว่า รอความชัดเจนแล้วปล่อยทีเดียว

เมื่อถามว่ามีความมั่นใจมากน้อยแค่ไหนที่จะสามารถกู้ชื่อเสียงตำรวจไทยกลับมาได้ พ.ต.อ.ยิ่งยศ ยังยืนยันว่าให้เป็นไปตามพยานหลักฐาน ถ้าเรียบร้อยแล้ว ทุกๆอย่างจะกระจ่างเอง เมื่อถามย้ำอีกว่า มั่นใจหรือเปล่า พ.ต.อ.ยิ่งยศ ไม่ยืนยัน แต่บอกทำนองว่าให้ข้อมูลแค่นี้ดีกว่า

ลิซ่า BLACKPINK ทุบสถิติ

ปังเกินต้าน! ลิซ่า BLACKPINK ทุบสถิติโลก เพิ่มอีก 3 รายการ

ปังไม่หยุด ฉุดไม่ไหวแล้วจริงๆสำหรับ ลิซ่า BLACKPINK ล่าสุดทุบสถิติ กินเนสส์บุ๊ก เวิร์ลด์เรคคอร์ด เพิ่มอีก 3 รายการ หลังจากก่อนหน้านี้เคยทุบสถิติโลกมาแล้ว

สร้างความภาคภูมิใจให้กับคนไทย ล่าสุด ลิซ่า ลลิษา มโนบาล (Lisa) สมาชิกเกิร์ลกรุ๊ประดับโลกจากประเทศเกาหลีใต้วง BLACKPINK ได้รับการยืนยันจาก “กินเนสส์บุ๊ก” หรือ “กินเนสส์ เวิลด์ เรคคอร์ด” (Guiness Book of World Records) ว่าเธอคือเจ้าของสถิติโลกของอีก 3 รายการต่อไปนี้

ลิซ่า BLACKPINK สุดปัง

เว็บไซต์ guinnessworldrecords ได้ประกาศว่า ลิซ่า BLACKPINK ได้ทำสถิติเพิ่มเติม 3 รายการ ได้แก่

ศิลปินเดี่ยว K-POP คนแรกที่ได้รับรางวัล MTV Video Music Awards
ศิลปินเดี่ยว K-POP คนแรกที่ได้รับรางวัล MTV Europe Video Music Awards
ศิลปิน K-POP ที่มีผู้ติดตามบนอินสตาแกรม มากที่สุด 86.3 ล้านคน(19 ม.ค.66) ซึ่งเป็นอันดับที่ 38 ของโลก

ภายหลังจากก่อนหน้าที่ ลิซ่า ได้ทำสถิติในฐานะศิลปินเดี่ยว ยอดวิวยูทูบสูงสุดใน 24 ชั่วโมงจากเพลง LALISA อยู่ที่ 73.60 ล้านวิว ซึ่งเป็นซิงเกิลเดี่ยวที่ได้ปล่อยออกมาในกันยายน 2564 ถือเป็นก่อนทำลายสถิติเดิมของเพลง Me ร้องโดย เทย์เลอร์ สวิฟต์ มียอดวิวอยู่ที่ 65.2 ล้านครั้งภายใน 24 ชั่วโมง

จากเดิมภายหลังปลดปล่อยผลงานเพลงเดี่ยวชุดแรกคือซิงเกิลอัลบั้ม LALISA เมื่อก.ย. ปี 2021 “ลิซ่า” ก็ส่งมิวสิควิดีโอเพลง LALISA ทำสถิติโลกเอ็มวีโดยศิลปินเดี่ยวที่มียอดวิวสูงสุดใน 24 ชั่วโมงแรกทางยูทูปมาแล้วที่ 73.6 ล้านครั้ง

ซึ่งผลงานชุดนี้ เพลงนี้ทำให้ “ลิซ่า” คือ ศิลปินเดี่ยวเคป็อปเจ้าของเอ็มวียอดวิว 24 ชั่วโมงแรกสูงสุดบนยูทูปไปด้วย เรียกว่าปังไม่หยุดจริงๆเพราะหลายสถิติของเธอมาจากเพลงเดี่ยวที่ปล่อยเมื่อปลายปี 2021 ทั้งสิ้น

ลิซ่า BLACKPINK ปังมาก
ลิซ่า BLACKPINK ขอบคุณบลิ้งค์ไทย ดีใจทุกๆครั้งที่ได้กลับบ้านเกิด

“ลิซ่า BLACKPINK” ประทับใจความน่ารักน่าเอ็นดูของ “บลิ้งค์ไทย” หลังจากจบคอนเสิร์ต BORN PINK มีแฟนๆต้อนรับแน่นทั้งสองวัน พร้อมบอกมีความสุข-ดีใจทุกครั้งที่ได้กลับบ้านเกิด

สร้างความประทับใจให้เหล่าบลิ้งค์สุดๆสำหรับคอนเสิร์ตเวิล์ดทัวร์ “BLACKPINK WORLD TOUR BORN PINK BANGKOK” ของ 4 สาว “BLACKPINK” อย่าง “ลิซ่า” (Lisa), “เจนนี่” (Jennie), “โรเซ่” (Rosé) และ “จีซู” (Jisoo) ที่ระเบิดความมันแบบจัดเต็ม ขนโชว์ขนเพลงมาฝากแฟนคลับชาวไทยเมื่อวันที่ 7-8 มกราคม 2566 ณ สนามกีฬาแห่งชาติ (สนามศุภชลาศัย) จนอิ่มอกอิ่มใจกันถ้วนหน้า

ล่าสุดศิลปินสาวชาวไทย “ลิซ่า ลลิษา มโนบาล” หรือ “ลิซ่า BLACKPINK” ได้ออกมาเคลื่อนไหวครั้งแรก หลังจากเสร็จสิ้นคอนเสิร์ตในประเทศไทย โดยเธอนั้นได้โพสต์ภาพบรรยากาศในคอนเสิร์ต พร้อมเขียนข้อความขอบคุณบลิ้งค์ชาวไทยที่ให้การต้อนรับอบอุ่น มาร่วมดูคอนเสิร์ตแน่นขนัดทั้งสองวัน ก่อนหยอดหวานบอกดีใจทุกๆครั้งที่ได้กลับบ้าน รักและคิดถึงเสมอ

โดยลิซ่าได้บอกความรู้สึกว่า “อย่างแรกเลย หนูดีใจและตื่นเต้นมากที่ได้เจอกันในรอบหลายปี ทั้งสองวัน มีคนมาให้กำลังใจอย่างล้นหลาม อย่างที่หนูได้บอกไปว่า รู้สึกโชคดีและมีความสุขทุกครั้งที่ได้ขึ้นแสดงต่อหน้า blinks ขอบคุณและประทับใจในความรักและกำลังใจที่ทุกคนมีให้หนูมาตลอด ดีใจทุกครั้งที่ได้กลับบ้าน รักและคิดถึงเสมอนะคะ LOVE THAI BLINKS KA”

จีซูBLACKPINK

นอกเหนือจาก ลิซ่า จะออกมาเปิดเผยความรู้สึกถึงบลิ้งค์คนไทยแล้ว พี่ใหญ่ของวงอย่าง จีซู ก็ได้รวบรวมภาพความประทับใจที่เกิดขึ้นในประเทศไทย พร้อมระบายความในใจถึงบลิ้งค์คนไทยด้วยอีกว่า

“It was such a treat to start our Asian Tour here in Thailand. Our hearts are in Thailand as much as Lisa’s is with Korea, and we had an amazing time here. Thank you so much. Hope to see you again soon! Love you!”

ซึ่งแปลเป็นภาษาไทยว่า “การเริ่มต้นทัวร์เอเชียของพวกเราที่ประเทศไทย นับว่าเป็นเรื่องที่น่ายินดีมาก หัวใจของพวกเราอยู่ที่ประเทศไทย พอๆกับที่ลิซ่าอยู่ประเทศเกาหลี และพวกเรามีช่วงเวลาที่น่าอัศจรรย์ที่นี่ ขอบคุณมาก หวังว่าจะได้พบคุณอีกในเร็วๆนี้ รักเธอ”

BLACKPINK ดังฉุนไม่อยู่
พาเที่ยวป๊อปอัพสโตร์ “BLACKPINK” ใหญ่ที่สุด เปิดครั้งแรกในเอเชีย

ป๊อปอัพสโตร์ใหญ่ที่สุดครั้งแรกในเอเชีย!“BLACKPINK IN YOUR AREA POP-UP STORE & EXHIBITION” ณ ไอคอนสยาม เปิดให้เข้าชมถึง 7 กุมภาพันธ์ นี้เท่านั้น

เอาใจเหล่าบลิ๊งค์พาชม BLACKPINK POP-UP STORE ที่เปิดตัวอย่างเป็นทางการแล้วในประเทศไทย ด้วยการเนรมิตพื้นที่กว่า 1,200 ตารางเมตร ณ ICONSIAM กับงาน “BLACKPINK IN YOUR AREA POP-UP STORE & EXHIBITION” โดยนับว่าเป็น BLACKPINK Exhibition ครั้งแรกของโลก

พร้อมรวบรวมผลิตภัณฑ์ OFFICIAL ของวง BLACKPINK ที่ถูกลิขสิทธิ์ ทั้งเสื้อยืด กระเป๋า หมวก กระเป๋า พวงกุญแจ โฟโต้บุ๊ค และสินค้าน่ารักต่างๆมากมาย โดยงานจะจัดขึ้นตั้งแต่วันนี้ ถึงวันที่ 7 ก.พ. 2566 ณ ICONSIAM Attraction Hall ชั้น 6

“BLACKPINK IN YOUR AREA POP-UP STORE & EXHIBITION” จัดขึ้นเพื่อเป็นการเฉลิมฉลองความสำเร็จของ BLACKPINK ตั้งแต่เริ่มเดบิวส์ในปี 2016 และประสบความสำเร็จดังไปทั่วโลกมาจนกระทั่งตอนนี้ ภายในงานเอ็กซิบิชั่น ถูกแบ่งออกเป็น 6 โซน

BLACKPINK ทุบสถิติโลก

เริ่มด้วยประตูที่เปิดเข้าสู่โลกของ BLACKPINK ด้วยเทคโนโลยีเสียงและสัมผัสสุดล้ำ กับโซน Journey to BLACKPINK Dimension นำทุกคนเข้าไปสู่โลกของ BLACKPINK ผ่านเพลง Pink VENOM ให้ความรู้สึกเหมือนทุกคนได้หลุดเข้าไปอยู่ในมิวสิควิดีโอจริงๆ

ขยับมาที่โซน One for All, All For One จะเป็นคลิปที่ไม่เคยเผยที่ไหนมาก่อนกับภาพเบื้องหลังการถ่ายทำ MV Pink Venom ซึ่งเป็น Exclusive Footage ถัดมาที่โซนตรงกลาง จะเป็นรูบิคโดยต้องการสื่อว่าทุกชิ้นส่วนทุกพาร์ทของทุกคนเชื่อมต่อกัน ถัดมาที่โซนไฮไลท์กับ From Unknown to The Infinity ในโซนนี้ได้นำเสนอชุดสำหรับใส่ของทั้ง 4 สาว BLACKPINK ให้ได้มองเห็นกันแบบใกล้ชิดและฟินกันไปเลย และอีกโซนที่พลาดไม่ได้กับการนำเสนอแนวคิด Perfect Harmony where East meet West ผ่านเครื่องดนตรีประเทศเกาหลีโบราณอย่าง GEOMUNGO (คอมุนโก) ที่สาวซีจูเล่นใน MV ‘Pink Venom’ และกีตาร์สุดห่วงของ สาวโรเซ่ ที่ถูกนำมาจัดแสดงให้กับแฟนคลับได้ดูแบบใกล้ชิด

และอีกหนึ่งในความพิเศษของงานในครั้งนี้ก็คือการเปิด POP-UP Store ที่ยกกองทัพสินค้าหายากของ BLACKPINK พร้อมทั้งสินค้าพิเศษจากโปรเจค Pink Venom จบท้ายด้วยผลิตภัณฑ์ Limited Edition ของสาว Lalisa ให้บลิ๊งค์ทุกคนได้มีสิทธิ์จับจองผลิตภัณฑ์เหล่านี้ครั้งแรกในไทย

พบกับ “BLACKPINK IN YOUR AREA’ POP-UP STORE & EXHIBITION” ที่จัดโดย มอร์ แดน ณุศา เอ็นเตอร์เทน, Paradise E&A, และ Monday Morning Creative Lab ได้ตั้งแต่วันนี้ ถึง 7 ก.พ. 66 ที่ ICONSIAM Attraction Hall ชั้น 6 เวลา 10.00 – 22.00 น.

แพท ณปภา หนุ่มอายุห่าง14ปี

"แพท ณปภา" เปิดใจคบหนุ่มรุ่นน้อง อายุห่าง 14 ปี ยังไม่มีสถานะขอแค่อย่าหวั่นไหว

ไม่ปล่อยให้ต้องสงสัย หรือคาใจกันนาน สำหรับนักแสดงสาว แพท ณปภา ตันตระกูล ภายหลังที่มีกระแสข่าวซุ่มคบ กับหนุ่มรุ่นน้อง อายุห่างกันถึง 14 ปี โดยได้ศึกษาดูใจกันมา 1 ปีแล้ว อีกทั้งยังมีโปรไฟล์ ที่ไม่ธรรมดาอีกด้วย

แพท ณปภา คนคุย

ล่าสุด แพท ณปภา ได้ออกมาเปิดเผย ขณะเดินทางมาร่วมรอบกาล่า เปิดตัวภาพยนตร์เรื่อง ทิดน้อย

ก็ได้อธิบายถึงเรื่องราวทั้งหมด ให้ฟังแบบชัด ๆ

“มันไม่มีอะไรเลย คือในเวลานี้ไปไกลกันเยอะแล้ว พูดง่าย ๆ คือเขาเป็นเด็กธรรมดา คนหนึ่งเลยดีกว่า และก็แพทก็ไม่ทราบว่าโปรไฟล์พวกนั้น มันมาจากไหน เพราะว่าแพทก็ไม่เคยพูดว่า เป็นโปรไฟล์อะไรอย่างไร แพทพูดแค่ว่าเขาอ่อนกว่า ถามว่าเรียนจบไหม แพทก็พูดได้เลยว่า ไม่ทราบ ทราบเพียงแค่ว่าเรียนอังกฤษ 7 ปี เท่านั้นเอง”

“พอคนไปพบรูป ไปหาอะไรมาเยอะ ๆ แพท ณปภา เองใจไม่ต้องการจะเปิดเขาอยู่แล้วด้วย พอเกิดเรื่องแบบนี้ เขาก็จะเริ่มอยู่ไม่เป็นสุข เราก็บอกไปว่าไม่เป็นไร อยู่ไปแบบเดิมแหละ ไม่ได้มีปัญหาอะไร”

โปรไฟล์ที่บอกมามีตรงบ้างไหม ?

“แพทมิได้อ่านเลย เอาจริง ๆ เรามีความคิดว่าโปรไฟล์เขา ที่เอามาจากไหนก็ไม่รู้ เท่าที่เราคุยกันมา 1 ปี เราไม่ได้ถาม เรารู้ง่าย ๆ ว่าเขาเคยไปเรียนอังกฤษมา 7 ปี และก็จบเพียงตรงนั้นเลย เนื่องจากเราไม่ได้มีสถานะ แล้วก็เราก็ไม่ได้คุยกัน เพื่อที่เราจะพัฒนาไปไกล แพทเลยไม่ได้ลงรายละเอียดว่า เธอเป็นใคร มาจากไหน ทราบแค่ว่าพอคุยกันไป คุยกันมา เขาช่วยซัพพอร์ตเราเรื่องงาน ช่วยเราในหลาย ๆ เรื่อง มันเลยกลายเป็นว่าระยะเวลา ในการคุย เขาเลยยืนระยะได้มา 1 ปีค่ะ”

สรุปว่าเป็นแฟนใหม่ของเราได้ไหม ?

“ไม่ใช่ค่ะ ไม่ใช่ คือแพทมิได้ให้สถานะ แพทบอกแล้วว่าถ้าหากวันนี้ เขาต้องการจะมาเป็นแฟนเราอะ ให้เขาเดินออกจากเราได้เลย ถ้าหากจะต้องมาเปิดตัว และมาบอกกับคนอื่นว่า เป็นแฟน ๆ แพทไม่เอา แพทอยากได้คนคุย ที่ซัพพอร์ตเราเรื่องงานได้เท่านั้นเอง แต่จะให้แพทมาลงรายละเอียด มาลงภาพคู่ หรือพยายามบอกอะไรอย่างงี้ มันจะไม่มีทางนั้นแน่ๆ”

ณปภาหุ่นแซ่บ

คุยกับเขาชัดเจนแล้วใช่ไหม ?

“ชัดเจนตั้งแต่วันแรกแล้วค่ะ จริง ๆ เขาไม่ได้คาดหวัง เป็นช่วงแรกการคุยเขาคงคาดหวังว่า มันจะพัฒนา แต่ตัวเราเป็นคนบอกเองว่า ไม่ต้องคาดหวัง เพราะตราบใด ที่มีการคาดหวัง คุณผิดหวังแน่ๆ เพราะฉะนั้นถ้าอยู่ในอย่างงี้ได้ อยู่ไปเรื่อย ๆ นะ ถึงวันหนึ่งถ้ามันจะใช่ มันก็ใช่เอง แต่ถ้าหากการคุยแล้วมีความรู้สึกว่าต้องการสถานะ เดี๋ยวนี้ให้เลิกคุยได้เลย”

แต่ว่าเขาก็ลงรูปใน IG ?

“เราอนุญาตค่ะ รูปเดียว จริง ๆ การลงรูปนั้นมันจะไม่เป็นปัญหาเลย ถ้าหากแพทไม่พลาด ลงหน้าเขาเยอะไปหน่อย อันนี้คือพูดเลย พลาดเลย ด้วยเหตุว่าจริง ๆ ไม่มีใครรู้จัก IG เขาอยู่แล้ว แพทไม่เคยพูดชื่อเขา ไม่เคยลงรูปเขาอยู่แล้ว ปัญหาก็คือวันนั้นที่เราอนุญาตให้เขาลง เราไม่คิดว่าจะมีคนทราบ IG เขา ส่วนเราจะโทษใครไม่ได้ ต้องโทษตัวเองว่า ดูมาตั้งหลายรูป คุณพลาดรูปที่ 3 ได้อย่างไร ลงไปแล้ว มารู้ตัวตอนเช้า อวยพรอะไรกันคะ อ่อ! เห็นเยอะไปหน่อย”

สถานะเดี๋ยวนี้ โสด หรือ ไม่โสด ?

“คือจริงๆ เพราะเหตุใดจะต้องมาคาดหวังว่าแพทจะ โสด หรือ ไม่โสด เพราะเหตุว่าในระหว่างทาง แพทมีคนคุยตลอด อันนี้แพทบอกจริง ๆ แล้วทำไมต้องให้แพทมาบอกสถานะตนเอง ตลอดเวลา ผู้ที่คุยอาจจะไม่ได้ไปต่อ มีตั้งเยอะตั้งแยะ ผู้ที่ไปต่อก็ไม่รู้ว่าจะ ยืนระยะเวลาได้นานแค่ไหน ดังนั้นแพทเลยพูดว่า โอเค คนนี้จะไปแบบนิ่งๆเนิบๆ”

แพทสวย

คนนี้คือไม่ใช่แฟนในอนาคตแน่ๆ?

“แพทยังไม่ทราบเลย ถ้าหากเขาอยู่ได้ในอย่างงี้ไปจนกระทั่งเรา 40 จนเราแบบโอเค หันไปแล้วยังเจอเขาอยู่ เขาก็อาจจะใช่”

หรือเพราะเราถือเคล็ดไม่ต้องการเปิดตัว เกี่ยวไหม ?

“หนึ่งเลยคือเกี่ยวกับตัวเรา และก็ตัวเขา เรายังมีความรู้สึกถึง เรื่องอายุอยู่ อันนี้ติดที่เราเอง แพทเห็นว่า 14 ปี อย่างไรก็ยังห่างไป ในระหว่างที่เขายังไม่เคยเจอ อะไรในโลกหล้านภาลัยเลย แต่ว่าเราอะ ผ่านมาหมดแล้ว ด้วยเหตุนี้คุณไม่ไปใช้ชีวิตวะ เรายังมีอันนี้อยู่ในหัว คุณยังใช้ชีวิต ได้อีกเยอะเลย ในระหว่างที่ผม 14 คุณพึ่งอุแว๊เองครับ คุณไปใช้ชีวิตก่อนไหม แต่ถ้าวันหนึ่ง คุณยังยืนยันว่าไม่ครับ ผมจะซัพพอร์ตคุณไปเรื่อยๆ เขาก็อาจจะเป็นคนที่ใช่ก็ได้”

แต่ข่าวออกไปไกลมากว่าเขาเป็นแฟนใหม่ แพท ณปภา แล้ว ?

“อยู่ในจุดเดิม ให้มั่นคงที่สุดเท่านั้นพอ ใครจะพูดอะไรยังไง คือให้อยู่ในจุดเดิม และไม่ต้องไปหวั่นไหวกับอะไร แพทขอเท่านี้”

คุยอยู่กับคนนี้คนเดียวใช่ไหม ?

“คนเดียว เพราะว่าคนอื่นยืนระยะไม่ได้ คนอื่นเขาต้องการเยอะ เราให้ไม่ได้ เราก็ให้เขาไปป้ายอื่น ใครยืนระยะกับเราได้ เข้าใจเรามากที่สุด เราก็จะคุยกับคนนั้นนานที่สุด”

มีระบุไหม ว่าระยะเวลานานมากแค่ไหนถึงจะเลื่อนขั้นเป็นแฟนได้ ?

“อันนี้เป็นคำถามมาก ในตัวของแพทนะ แพทเชื่อว่าเขาก็มีคำถาม แต่ว่าแพทก็ยังตอบไม่ได้ว่า มันต้องกี่ปี นี่ปีหนึ่งยังไม่พออีกเหรอ ก็ยัง เนื่องจากมันยังมีรายละเอียดเล็ก ๆน้อย ๆ ที่เรายังมองข้ามมิได้ไง ถ้าหากวันไหน เรามองข้ามเรื่องตรงนี้ได้ มันก็อาจจะเป็นได้”

แพทริเซีย ลุยเปิดอู่

"แพทริเซีย" ลุยเปิดอู่ปั๊มลูกแล้ว ยิ้มปลื้ม "โน้ต วิเศษ" คลั่งรัก ยิ่งแต่งก็ยิ่งหวาน

เรียกว่ายิ่งแต่งก็ยิ่งคลั่งรักสุดๆสำหรับ โน้ต-วิเศษ รังษีสิงห์พิพัฒน์ สามีของนางเอกสาว แพทริเซีย กู๊ด ที่ล่าสุดถึงกับลบรูปภาพอินสตาแกรมทั้งหมด ให้เหลือแต่ภาพคู่เก็บไว้เป็นโมเมนต์ดีๆต่อหัวใจ

ปัจจุบัน แพทริเซีย ได้เดินทางมาร่วมงานเปิดตัว บริษัท มดแดง มีเดีย จำกัด ก็ได้ออกมาอัปเดตให้ฟังว่า ขณะนี้ เดินหน้าเปิดอู่ปั๊มลูกด้วยวิธีธรรมชาติแล้ว ซึ่งถ้ามีข่าวดีที่ชัวร์เมื่อไหร่ จะรีบออกมาบอกทันที พร้อมเผยสามีดูแลดียังไง ก็ยังคงดูแลดีอย่างนั้น สม่ำเสมอ ไม่มีเปลี่ยน

แพทริเซีย แต่งก็ยิ่งหวาน

แพทริเซีย ใน IG โน้ต ลบรูปหมดเลย เหมือนรีสตาร์ทใหม่ เหลือแค่รูปของเรา ?

“ใช่ค่ะ ก็ตกใจเหมือนกัน ที่เห็นครั้งแรก เขาไม่ได้มาปรึกษาเลยคะ คือ เขาทำไปเรื่อย มาเห็นอีกที คือ รูปหายไป ค่อนข้างมาก เขาบอก เขาไม่ได้ลบถาวร มันเป็นแค่ซ่อนไว้ เขาบอกเหมือนเป็นอีกขั้นใหม่ของชีวิตแล้ว แต่งงานแล้ว ก็อยากจะขอมองแค่อนาคต เขากล่าวแบบนี้นะ”

พอเขากล่าวแบบนี้ เราชื่นใจไหม ?

“ก็รู้สึกดีค่ะ ที่เขาดูจริงจังกับอนาคต หรือ ชีวิตคู่ของเรา ก็ดีใจค่ะ เน้นทำงานดีกว่า ไม่ต้องเน้นโซเชียลอะไรมากมายก็ได้”

แต่ว่าเขาก็เป็นดาว TikTok อยู่นะ ?

“จากที่เล่นขำๆ กลายเป็นคนชอบมาก เป็นอาชีพหลักไปแล้ว แล้วมาถ่ายหนูในตอนที่หนูหน้าโทรมๆทุกครั้ง แต่ก็ดีใจค่ะ ที่คนได้มองเห็น ชีวิตเราเป็นอย่างนี้ อีกอย่างเหมือนได้เข้าถึงแฟนๆด้วยค่ะ สนุก”

ใน IG เหมือนเราใช้ชีวิตไฮโซหรูหรา แต่ทางด้าน TikTok เหมือนได้มองเห็นอีกมุม ที่ใช้ชีวิตติดดิน ธรรมดาเลย ?

“เหมือน TiKTok จะธรรมชาติกว่า IG เนอะ IG ทุกๆอย่าง มันจึงควรดูสวยงาม หรือ เป๊ะตลอดเวลา จริงๆ เราก็เบื่อนะ ไม่ต้องเล่นก็ได้ แต่ด้วยงาน มันเลยต้องเล่นค่ะ ก็จัดว่าให้คนได้เห็นอีกมุมแล้วกันค่ะ ไม่ได้กะทำเอาจริงเอาจังนะ แต่เขาอาจจะเห็นว่า ทำแล้วฟีดแบคดีค่ะ ก็เลยทำเรื่อยๆ”

มีอันไหนที่ขอไหม ว่าอันนี้หน้าไม่ไหวจริงๆไม่ลงได้ไหม ?

“แรกๆ มันจะมีแบบไม่ถ่ายได้ไหมวันนี้ ทำไมจะต้องยกกล้องถ่ายรูปตลอดเวลา บางที เรา ก็อยากจะสนุกกับโมเมนต์นั้นๆใช่ไหมค่ะ แต่ว่าหลังๆ มันห้ามไม่ได้แล้วไง หน้าสด คิ้วไม่มี หัวฟู เราก็ปล่อยแล้วค่ะ”

แต่เราก็มั่นใจในความสด แต่ยังสวยของเรา ?

“ไม่ได้มั่นใจอะไรเลย แต่นั่นก็คือพาร์ทของชีวิตเรา”

แพทริเซียโน้ต

สามีดูคลั่งรักเรามาก ?

“ก็ดูแลดีเหมือนเดิมค่ะ ตอนนี้ คือ อยู่ด้วยกัน พบกันทุกวัน ก็แฮปปี้ค่ะ แต่ว่าในเวลานี้ เราก็ต่างคนต่างลุยงาน ให้กำลังใจกันและกัน”

ยิ่งแต่ง เขาก็ยิ่งดูคลั่งรักเรามาก ?

“ไม่หรอกค่ะ หนูว่าเขาเพียงแค่อยากชัดเจนว่า ต้องการโฟกัสอีกพาร์ทของชีวิตแล้ว ต่างคนก็โตแล้วเนอะ แต่งงานแล้ว ก็มาโฟกัสอนาคตกันดีกว่า ไม่ต้องคิดอะไรเยอะแยะ ไม่ต้องมองดูสิ่งก่อนหน้านี้ที่ผ่านมา”

เขาเทคแคร์ แพทริเซีย มากขึ้นกว่าแต่ก่อนไหม ?

“เหมือนเดิมค่ะ คือเขาเป็นคนที่สม่ำเสมอมาก รักยังไงก็ยังรักอย่างนั้น ก็ขอให้เป็นแบบนี้ไปนานๆ”

เราได้มีมุมแม่บ้าน ทำอาหารให้เขาทานบ้างหรือยัง ?

“ยังเลย พอเราทำงาน เขาก็แค่บอกว่า ยูขยันทำงานก็พอแล้ว อยากให้เรามีอะไรเป็นของตนเอง สร้างเนื้อสร้างตัวให้เราภูมิใจ เขาขอเพียงเท่านี้จริงๆเลย ส่วนอาหาร ยังไม่ได้ทำค่ะ อย่าให้ทำเองเลย แต่ถ้าให้ทำด้วยกัน ให้เป็นลูกมือก็ได้ เขาจะเป็นคนชอบทำมากกว่า ตัวหนูจะชอบทำขนมมากกว่าค่ะ ถ้าหากเป็นของคาวจะเฉยๆ”

หลังแต่งงาน เรารับงานตลอดเลย ไม่ได้พัก ?

“รับ (หัวเราะ) คือถ้ามีติดต่อมา เราก็รับอยู่แล้ว คือก่อนหน้านี้ การแข่งขันมันก็เพิ่มมากขึ้นทุกวัน เราก็ต้องดึงตนเองเรื่อยๆ ไม่ใช่แค่ละครอย่างเดียว หนูคิดว่า ช่องทางที่คนเห็นเรา มันหลากหลายขึ้น หนูก็อยากทำงานให้มันหลากหลายขึ้นเช่นกัน ก็รับหมดค่ะ ถ้าเกิดมันตรงกับสิ่งที่เราอยากทำ เราก็รับ”

รีบรับก่อนจะมีน้อง ?

“ใช่ ถูกเลยค่ะ คือเราแพลนไว้หมดแล้ว ถ้าเกิดน้องมาหนูออกมาบอกให้ทุกคนทราบแน่นอนค่ะ หนูต้องการให้มันชัวร์จริงๆ ก็วางไว้ว่าปีนี้ค่ะ เราปล่อยธรรมชาติเลย เอาเป็นว่าถ้ามีข่าวดีที่ชัวร์ๆ เดี๋ยวหนูจะมาบอกค่ะ ตอนนี้ก็แจ้งกองไว้เรียบร้อยแล้วค่ะ กองก็รีบถ่ายค่ะ”

สวยแพทริเซีย

มีฝันอะไรที่เป็นมงคลว่าจะได้ลูกแล้วบ้างหรือยัง ?

“ไม่มีเลย ไม่มีฝันอะไรเลย ยังไม่ได้มีใครให้โดฟอะไรเลยค่ะ กินเยอะเหมือนเดิม ยังสนุกกับชีวิตมาก”

เรือนหอตอนนี้ แพทริเซีย แพลนไว้อย่างไร ?

“เราอยู่ที่คอนโดค่ะ ก็อยู่ที่ที่พี่โน้ตอยู่อยู่แล้ว จริงๆ ที่มันก็ค่อนข้างจะพอ ถ้าเกิดเรามีน้อง ก็สามารถเลี้ยงสัก 2 คนที่นั่นได้สบายๆเลยค่ะ”

เราไปเบียดเบียนตู้ที่มีไว้ใส่เสื้อผ้าเขาเยอะแค่ไหนในตอนนี้ ?

“เขามีตู้เล็กๆ1 ตู้ ให้เรา ที่เหลือของเขาหมดเลย คือหนูยังไม่ได้ย้ายทุกๆอย่างเข้าไปค่ะ อย่างที่บอกว่า บางทีเรายังทำงาน ก็จะไปที่บ้าน ก็ยังอยู่กับแม่ ตู้เดียวพอค่ะ หนูของไม่เยอะ แต่ว่าเขาบอกอาจจะตามอายุ พอเราโตขึ้น อาจจะเริ่มช้อปปิ้งเพิ่มมากขึ้น ในตอนนี้ อาจจะยังไม่ได้สนใจตรงนั้น”

ฝาแฝดเลยไหม ?

“ธรรมชาติ ไม่น่าจะแฝดอะ ที่บ้านหนูไม่มีใครเป็นฝาแฝดเลย เพราะฉะนั้น ก็คงจะคนเดียวค่ะ”

สามีบอกให้ใส่แหวน วันนี้ก็ไม่ใส่มาอีกแล้ว ?

“ลืม (หัวเราะ) คือรีบแต่งตัว แล้วเราเก็บในเซฟอะ จะลืมเอาออกมาตลอดเลย ไม่ได้ใส่ติดตัวค่ะ เราก็แอบกลัวนะ ไม่ได้เป็นอะไรที่ใส่เป็นประจำค่ะ คือคุยกันแล้วว่า ขอไปซื้อแหวนวงเล็กๆที่จะใส่แบบสบายๆดีกว่าค่ะ”

เขาจะงอนไหม ?

“ไม่งอนหรอก เราก็ลืมจริงๆอะ (หัวเราะ) หนึ่งเลยคือเราไม่ชิน พึ่งได้ใส่ไม่ถึงเดือนเอง มันก็จะยังไม่ติดตัวขนาดนั้นค่ะ และก็ สองมันเป็นอะไรที่มีมูลค่า ถ้ามันหลวม อย่างเวลาหนูอยู่ที่เย็นๆ นิ้วจะเล็กลง ก็จะมีความระแวงเยอะ ก็เลยขอเป็นวงสำรอง ง่ายๆเดี๋ยวเราไปดูเองง่ายๆเลย บางครั้ง เราทำงานก็ไม่สะดวกในการใส่อยู่แล้ว ดังเช่น ไปกองอะไรอย่างนี้”

ฮันนีมูนหรือยัง ?

“คือมีทริปทุกเดือนเลยคะที่เราแพลนไว้ แต่ว่าเป็นทริปกับครอบครัว ยังไม่มีทริปของเราสองคนค่ะ”

เฟย์ พรปวีณ์ แฟนบอย

"เฟย์" ยกคู่หวานทริปเกาหลีให้ "โบว์-อาเล็ก" อดสวีต "บอย" วาเลนไทน์นี้

พึ่งจะกลับจากทริปสวีต สำหรับสาว เฟย์  พรปวีณ์ นีระสิงห์ หวานใจคนสวย ของพระเอกหนุ่ม บอย-ปกรณ์ ฉัตรบริรักษ์ ภายหลังควงกันไปกระชับรัก ร่วมทริปกับแก๊งดาราเพื่อนซี้ ซึ่งหนุ่มๆแต่ละคน ต่างควงสาวคนพิเศษของตัวเองไปด้วย เมื่อได้โอกาสเจอสาวเฟย์ ในงานเปิดตัวสินค้าใหม่ โยเกิร์ต เมจิ บัลแกเรีย เซ็ทโยเกิร์ต แอนด์ฟรุ๊ต ก็เลยได้พูดคุยถึงความสนุก หลังร่วมทริปถ่ายรายการกับแก๊งคนดีที่ไหน

โดย เฟย์ เผยว่า

“ไปเที่ยวส่วนใหญ่ มีทำงานนิดนึง (หัวเราะ) พี่ๆเขาไปถ่ายรายการ คนดีที่ไหน สาวๆว่างพร้อมกันพอดี ก็เลยนัดหมายกันไปเที่ยว”

เฟย์ พรปวีณ์ น่ารัก

ไปเที่ยวครบคู่พร้อมกันครั้งแรก ?

“อุ้ย รู้ได้ไงว่า พี่เกรทมี ล้อเล่นนะพี่เกรท (หัวเราะ) ก็เป็นครั้งแรกเลยที่ไปเที่ยวกัน ก่อนหน้านั้นมีไปถ่ายรายการครบคู่เหมือนกัน แต่ครั้งนี้ใช้เวลาร่วมกันนานขึ้น ซึ่งพวกเราได้ช่วยเหลือเขาเยอะอยู่เหมือนกัน เฟย์ เพิ่งจะไปเกาหลีมาตอนพฤศจิกายน เรา จะมีความคุ้นเคยกับสถานที่ที่มันอัปเดตมากขึ้น ช่วยสำหรับเพื่อการหาร้านอาหาร ไปกรุ๊ปใหญ่ก็วุ่นวายใช้ได้เลย เป็นทริปที่นอนน้อยพอสมควร เสียเวลากับการเดินหาร้านนี่แหละค่ะ”

สาวๆมีความสนิทสนมกันเยอะขึ้นเรื่อยๆมั้ย ?

“ทุกคนเฟย์เคยเจอก่อนหน้าที่ผ่านมาแล้วด้วย โดยเฉพาะอย่างยิ่ง น้องโบว์ พบกันตั้งแต่ตอนกามิกาเซ่ เรื่องช้อปปิ้ง สาวๆ จะช่วยกันเลือกเหมือนมีเพื่อนสาว ปกติหนุ่มๆ เขาจะไม่สามารถที่จะช่วยเราตัดสินใจอะไรได้ พอมีสาวๆก็ดีเหมือนกัน”

หลายๆคนอยากที่จะให้สาวๆเป็นแขกรับเชิญในรายการ มีเรื่องอยากไปแฉหนุ่มๆบ้างมั้ย ?

“เขาชวนเราไป เหมือนเราไปโดนรังแกมากกว่า อยากจะไปแฉเขาเหมือนกัน ได้ เดี๋ยวหนูจะจัดให้ค่ะ ถามว่า ทริปนี้คู่ไหนหวานสุด บอกได้หรอค่ะ (หัวเราะ) คู่เรา พี่บอยเหรอ ไม่นะ เฟย์ ยกให้เป็นคู่อาเล็กกับโบว์แล้วกัน ส่วนคู่เรา จะมีความหวานแบบกวนประสาทของเขา มันก็เลยจะหวานไม่สุด”

ทริปนี้มีอะไรพิเศษให้กันมั้ย ?

“การไปเที่ยวต่างประเทศด้วยกันแบบครบๆคราวนี้ นับว่า พิเศษแล้ว เรา ได้ใช้เวลาอยู่ร่วมกันเยอะขึ้นเรื่อยๆกับหลายคน มองเห็นมุมที่เขาอยู่กับเพื่อนมากขึ้น เขา ก็มองเห็นเราเล่นกับสาวๆมากยิ่งขึ้น คนที่ไปด้วยเท่านี้ก็พิเศษแล้วค่ะ”

ได้เห็นตัวตนกันร้อยเปอร์เซ็นต์เลยมั้ย ?

“ก็ได้เห็นนะ แท้จริงก่อนหน้าที่ผ่านมา เขา ก็เป็นคนเปิดเผยมาตั้งแต่แรกแล้ว โมเมนต์สองคน อาจจะเป็นไปได้ว่าจะมีบ้างในระยะเวลาแข่งเล่นเกมที่เราต้องแท็กทีมกัน เรา ก็จะช่วยเหลือกันพิเศษ ส่วนมุมสวีตมันจะมีจังหวะที่แยกกันเดิน 10-20 นาที แค่นั้นล่ะค่ะ เดินวนอยู่ตรงนั้น ยังไม่ได้ทำอะไรก็จะต้องมาเจอเพื่อนๆแล้ว

แต่ดีแล้ว เนื่องจากว่า เรา ก็เคยไปเที่ยวแบบที่ไม่ใช่กลุ่มทั้งหมดมาแล้ว พอมาอย่างนี้อยู่ด้วยกันก็สนุกกว่าค่ะ”

“แท้จริงยังไม่เคยไปกันแบบสองคนจริงๆ ไม่มีแบบเพื่อนเฟย์ ก็จะต้องมีเพื่อนพี่ฟาง หรือว่า มีพี่ฟางไปด้วย แต่ว่าพอครั้งนี้ มันเป็นแก๊งใหญ่ ปกติเฟย์จะเป็นคนแพลนไปโน่นไปนี่ แต่ว่าคราวนี้มีโมเมนต์เดินตามกลุ่มเขาไปไหน เรา ก็ไปกันเยอะๆสนุกคึกคักดี พี่ๆเขาก็ตีกันเล่นกันตลอดทาง”

มีคนแซวคู่เรามากไหม ?

“ณ จุดนั้นไม่ค่อยเท่าไหร่ เขาทราบว่า ถ้าเขาแซวมา ก็จะต้องโดนแซวกลับ เพราะ ทุกคนมีคู่หมด อุ้ย หมดแบบไม่เกลี้ยง หมดแบบไม่ทุกคน พี่เกรทก็ไปอยู่ด้วยกันทั้งหมด ไม่มีใครทิ้งค่ะ ถามว่า มีปลอบใจพี่เกรทมั้ย ก็มีแนะนำว่า คนนี้น่ารักนะ แต่ก็ได้แค่นั้นแหละ มีใครถูกใจตรงใจมั้ย อันนี้จะต้องถามพี่เกรทเองนะคะ”

เฟย์บอยเที่ยว

เฟย์ พรปวีณ์ วาเลนไทน์ที่จะถึงนี้เตรียมตัวหรือยัง ?

“วาเลนไทน์นี้ เตรียมตัวอยู่คนเดียว เนื่องจากว่า พี่บอยไม่อยู่ ชอบดีเลย์ หรือไม่ก็ล่วงหน้า ไม่เป็นไร แค่วันวาเลนไทน์เอง วันเดียวพลาดได้ ก็เป็นของขวัญมาให้ย้อนหลังแทน จะคูณสองเลยมั้ย เป็นไอเดียที่ดีเหมือนกันนะ”

วันพิเศษอย่างวาเลนไทน์สำคัญกับเฟย์มากแค่ไหน ?

“ที่จริงเฟย์ก็ไม่ได้ให้ความสำคัญแบบจำเป็นจะต้อง เป็นเพียงแค่มีการนึกถึง พูดถึง ก็พอแล้ว รู้สึกว่า ถ้าหากใครมีงาน เรา ก็น่าจะต้องไปทำงานดีกว่า เพราะ ทุกๆวันมันเหมือนพบกันอยู่เรื่อยๆอยู่แล้ว ส่วนจะมีไปเที่ยวสองคนมั้ย น่าจะอีกสักแป๊บนึง รอผ่านแม่ก่อน (หัวเราะ)”

จะมีเซอร์ไพรส์อะไรให้กันมั้ย ?

“พี่บอย ไม่ได้เป็นคนชอบเซอร์ไพรส์อยู่แล้ว เขาจะเป็นคนตรงๆเลย จะให้ของขวัญก็ให้เลย ไม่ค่อยมีมุมอยากจะเซอร์ไพรส์ วาเลนไทน์นี้ ก็เป็นวาเลนไทน์ปีที่สองของเรา ครั้งแรกก็ติดโควิด ครั้งนี้ ก็ไปทำงาน พูดลอยๆเฉยๆ (หัวเราะ)”

“ส่วนเราจะมีของขวัญเตรียมไว้ให้แล้ว สไตล์ผู้หญิงจะให้ความสำคัญกับเรื่องพวกนี้นิดนึง มันเป็นเรื่องความสนุกกุ๊กกิ๊กๆ ก็จัดเตรียมของอย่างที่เราต้องการให้เขา ต้องการให้เขาใส่ ต้องการให้เขาได้อะไร ไม่ต้องอิงตามความพอใจเขา อิงตามความชอบเรา (หัวเราะ)”

ประวัติ เฟย์ พรปวีณ์ นีระสิงห์

เฟย์ พรปวีณ์ นีระสิงห์ เกิดวันที่ 29 ธ.ค. พ.ศ. 2535 เป็นชาวไทยเชื้อสายจีน เป็นลูกสาวคนที่ 2 จากบุตรสาวทั้งหมด 3 คนของ พันเอก นายแพทย์ ทรงพล นีระสิงห์ และก็ นางวีนุกูล นีระสิงห์ โดยมีพี่สาว 1 คน คือ ฟาง ธนันต์ธรญ์ นีระสิงห์ และก็ น้องสาว 1 คน คือ ฟิน พีร์พิชชา นีระสิงห์

ด้านการศึกษา เฟย์ สำเร็จการศึกษาระดับประถมศึกษา แล้วก็ ชั้นมัธยมศึกษาจาก โรงเรียนวัฒนาวิทยาลัย จบการศึกษาระดับปริญญาตรีจาก คณะรัฐศาสตร์ สาขาวิชารัฐประศาสนศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย รวมทั้ง เรียนจบระดับปริญญาโท ด้านแฟชั่น (Fashion Management) ด้วยเกียรตินิยม ที่กรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ ปัจจุบันกำลังคบกับพระเอก บอย ปกรณ์ ฉัตรบริรักษ์

ผลงานเพลง

• เฟย์ ฟาง แก้ว
• เซเวน เดย์

ผลงานละครโทรทัศน์/ซีรีส์

ปี 2553
• บริษัทสร้างสุข ตอน “กาแลคซี่” รับบท ฟ้า โมเดิร์นไนน์ทีวี
ปี 2558
• แผนรักฉบับออร์แกนิค รับบท สลิตา ทรูโฟร์ยู

ดิว อริสรา แฉเหล่า

แฉกลางดึก! ‘ดิว อริสรา’ โพสต์ชี้ช่องให้ตำรวจตามจับเหล่าเว็บพนัน

เรียกได้ว่าฮือฮากันกลางดึกเลยทีเดียวเมื่อคุณแม่คนสวย ดิว อริสรา ทองบริสุทธิ์ โพสต์แจ้งข้อมูลของบุคคลที่อยู่เบื้องหลังเว็บพนัน “มาเก๊า888” ที่เริ่มจะมีพิธีแต่งงานใหญ่มโหฬารในอีกไม่กี่วันนี้ และก็คาดว่าจะมีเพื่อน ๆ ในวงการพนันออนไลน์มาร่วมงานมากมาย งานนี้ตำรวจไทยอยู่เฉยอาจไม่ได้!

“อะ… บ้านทำเว็บพนันใหญ่ชื่อ “มาเก๊า888” มีพี่น้อง 4 คนผู้ชายหมด ชื่อเล่น บ. ทั้งบ้าน น้องชื่อ บิ๊ก พึ่งหมั้นวันนี้ กำลังจะแต่งงานวันที่ 22 มกราคม ที่จะถึง … คาดว่าวงการเว๊ปพนันออนไลน์น่าจะไปร่วมงานแต่งถ้วนหน้า … และมีคนมีชื่อเสียงร่วมงานเยอะ

ดิว อริสรา โพสต์

สายสืบ-ตำรวจใดใดทำงานด้วยค๊าบ มีข้อมูลอยู่แล้ว

อยากรวบใคร รวบเลย! ฝากนักสืบ และ ผู้มีประสบการณ์ทำงานด้วยค๊า ปล. ไม่ผิดที่มีความรักและแต่งงาน แต่ผิดที่ทำธุรกิจสกปรก ไม่ขาว ผิดกฏหมาย และ กล้าจัดงานใหญ่โตในขณะที่คนอื่นโดนจับกัน โชว์ความรวยที่ได้มาจากเว็บพนันที่หลอกเงินคนไทย หุหุ #ตำรวจไทยเก่งที่สุด #ทำคดีอื่นแล้วฝากคดีนี้ด้วยค๊าพี่ตำรวจ”

งานนี้แค่เพียงสาวดิวโพสต์ไม่นานก็มีคอมเมนต์ถล่มทลาย บางคนคาดทายใจว่าหนึ่งในเบื้องหลังเว็บพนันนั้นบางทีอาจเป็นคนที่สาวดิวเคยคบค้าด้วย มีชื่อเป็นแบรนด์รถหรู

เอ๊ะอย่างไร!’ดิว-อริสรา’ โพสต์แจ้งเบาะแสกลุ่มเว็บพนันจ่อร่วมงานสมรสเจ้าของ ‘มาเก๊า888’

ศิลปินสาวโด่งดัง “ดิว-อริสรา ทองบริสุทธิ์” โพสต์เฟซบุ๊กแจ้งเบาะแสตำรวจตามจับ ผู้ครอบครองเว็บ “มาเก๊า888” เชิญชวนคนแวดวงเว็บพนันออนไลน์ร่วมงานแต่ง ชี้ไม่ผิดที่มีความรักและจัดงานแต่งงาน แต่ผิดที่ทำธุรกิจสกปรก ซัดกล้าจัดงานใหญ่โตโชว์รวย ทั้งที่หลอกเอาเงินคนไทย

แฉแหล่ง

เรียกได้ว่ากำลังเป็นกระแสฮือฮา…หลังดาราสาวโด่งดัง

“ดิว-อริสรา ทองบริสุทธิ์” ออกมาโพสต์เฟซบุ๊กส่วนตัว “Due Arisara” ซึ่งมียอดผู้ติดตามมากกว่า 1 ล้านคน
ลักษณะแจ้งเบาะแสให้ตำรวจ ทำนองว่า “…อะ… บ้านทำเว็บพนันใหญ่ชื่อ “มาเก๊า888” มีพี่น้อง 4 คนผู้ชายหมด ชื่อเล่น บ. ทั้งบ้าน น้องชื่อ บิ๊ก พึ่งหมั้นวันนี้ กำลังจะแต่งงานวันที่ 22 มกราคม ที่จะถึง … คาดว่าวงการเว็บพนันออนไลน์น่าจะไปร่วมงานแต่งถ้วนหน้า … และมีคนมีชื่อเสียงร่วมงานเยอะ

สายสืบ-ตำรวจใดใดทำงานด้วยค๊าบ มีข้อมูลอยู่แล้ว อยากรวบใคร รวบเลย! ฝากนักสืบ และ ผู้มีประสบการณ์ทำงานด้วยค๊า ปล. ไม่ผิดที่มีความรักและแต่งงาน แต่ผิดที่ทำธุระกิจสกปรก ไม่ขาว ผิดกฏหมาย และกล้าจัดงานใหญ่โตในขณะที่คนอื่นโดนจับกัน โชว์ความรวยที่ได้มาจากเว็บพนันที่หลอกเงินคนไทย กุกุ #ตำรวจไทยเก่งที่สุด #ทำคดีอื่นแล้วฝากคดีนี้ด้วยค๊าพี่ตำรวจ…”

ภายหลังจากข้อความดังกล่าวถูกโพสต์ออกไปทำให้มีคนที่สนใจกดไลค์ไปมากกว่า 3.5 หมื่นครั้ง แชร์ข้อความนี้ไปมากกว่า 5 พันครั้ง พร้อมกับแสดงข้อคิดเห็นอีกกว่า 3.4 พันใจความ โดยมากสงสัยว่าใครเป็นคนที่ถูกกล่าวถึงกันแน่ และก็บางคนก็ขอร้องให้ตำรวจช่วยสำรวจเรื่องนี้ด้วย ว่าบุคคลดังกล่าวมีจริงหรือไม่ รวมทั้งที่สำคัญทำธุรกิจเว็บพนันออนไลน์หรือเปล่าด้วย

ดิว อริสรา เผยว่า

ประวัติ ดิว อริสรา ทองบริสุทธิ์

ดิว อริสรา ทองบริสุทธิ์ เกิดวันที่ 15 มิถุนายน พุทธศักราช2533
เคยศึกษาที่ โรงเรียนพระมารดานิจจานุเคราะห์ จบการศึกษาชั้นมัธยมศึกษาสายวิทย์-คณิต จากโรงเรียนพระหฤทัยคอนแวนต์
เข้าวงการบันเทิงด้วยการถ่ายแบบลงนิตยสารแฟชั่น จนกระทั่งได้เป็นนักร้องคู่กับ “จีน่า กะรัต รุ่นประพันธ์” ออกอัลบั้มแนวดนตรีป็อปแดนซ์ ชื่อ Sugar n’ Spice ในสังกัด Buzz Music และก็มีผลงานแจ้งเกิดคือละครชุด “อุบัติรักข้ามขอบฟ้า 2” ผลงานภาพยนตร์หนแรก คือ “After School วิ่งสู้ฝัน”

ผลงานภาพยนตร์
2553
ตายโหง รับบท จ๊อยซ์
Yes or No อยากรัก ก็รักเลย รับบท เจน
เการักที่เกาหลี ซอร์รี ซารังเฮโย รับบท มะระ(ตอนสวย)

2554
ศพเด็ก 2002 ศพ รับบท ชาลิสา

2563
Dark World

ผลงานละครโทรทัศน์

2552
อุบัติรักข้ามขอบฟ้า 2 รับบท แซน ช่อง 9

2556
พรพรหมอลเวง รับบท พัดชา ช่อง 3
ต้นรักริมรั้ว รับบท แตงกวา
อันโกะ กลรักสตรอว์เบอร์รี่ รับบท อิ้งค์กี้

2557
รักต้องอุ้ม รับบท ธัญญาเรศ
ชิงรักหักสวาท รับบท ฟ้าหยาด ช่อง 8

2558
เงาใจ รับบท กินรี ช่องวัน
กลกิโมโน รับบท ริเอะ ชินเอบะ ช่อง 3
ทางผ่านกามเทพ รับบท มาลาตี

2559
คงกระพันนารี รับบท จิตนารี
คนละขอบฟ้า รับบท อามีนา
ดาวหลงฟ้า รับบท ภูผาสีเงิน ศลิษา

2560
ตะวันยอแสง รับบท พร้อมมิตร เดชาบดินทร์ (พร้อม)
ละครคน รับบท น้ำฝน จีเอ็มเอ็ม 25
ซีรีส์ เสน่หา Diary ตอน แสบเสน่หา รับบท พัชรา (แพม) ช่องวัน
แหวนดอกไม้ รับบท ดาวจงกล (ดาว) จีเอ็มเอ็ม 25
ระเริงไฟ รับบท ปาริฉัตร ช่อง 3

2561
กาหลมหรทึก รับบท อาจือ ช่องวัน
ดาวจรัสฟ้า รับบท พัชรี ศรีทอง

2562
ดงผู้ดี รับบท บุหงา รัตนเดชากร ช่อง 8
เมียน้อย รับบท ปานวาด จีเอ็มเอ็ม 25
รักไม่ลืม รับบท แพร ช่องวัน
ปมรักสลับหัวใจ รับบท รตีรัตน์ ช่อง 8
มณีนาคา รับบท นิลรัตน์นาคี

2563
เนื้อใน รับบท วีณา จีเอ็มเอ็ม 25
ปอบผีเจ้า รับบท แสงเงิน ช่อง 8
มงกุฎดอกหญ้า รับบท มินทิรา (มิ้นท์) ช่องวัน
คุณแจ๋วกะเพรา ไก่คุณชายไข่ดาว ช่อง 8
ผลงานซีรีส์

2559
Love Songs Love Stories เพลง ลงเอย รับบท แจน
สงครามแย่งผู้ชาย to be continued รับบท แจน
เราเกิดในรัชกาลที่ ๙ เดอะซีรีส์ ผู้เข้าร่วมพิธีเคลื่อนพระบรมศพ

2560
เป็นต่อ Uncensored Pool Party พี่ไม่ลืม รับบท แพรว

2561
Club Friday the Series 10 รักนอกใจ ตอน รักร้าย รับบท เหมย

ละครเวที
2559
ผ้าห่มผืนสุดท้าย แป้ง

จิ๊บ คีตภัทร โพสต์

"จิ๊บ คีตภัทร" ขอเคลียร์ ปมคลิปฉาว ยันไม่ใช่ตัวเอง ฟ้องแน่ ทำเสียหาย

ดาราหนังสาวยุค 90 “จิ๊บ คีตภัทร อันติมานนท์” โพสต์ IG ชี้แจงเรื่องข่าวหลุด ที่หลายคนเดาว่าเป็นตนเอง ยันไม่ใช่ ด้วยเหตุว่ามาหาครอบครัว ที่สหรัฐอเมริกา ลั่นดำเนินดคีแน่ๆ ฐานทำให้ตนเกิดความเสียหาย ยันไม่ใช่ นางเอก จ. ถูกปล่อยคลิปลับ เจอเรียกเงิน 4 แสน จ่อเอาผิด คนกุข่าวมั่ว ทำเสียหาย เพื่อรักษาสิทธิ และความถูกต้องให้ถึงที่สุด

จิ๊บ คีตภัทร ข่าว

เป็นประเด็นร้อน กระเทือนแวดวงบันเทิง

หลังจากที่ผู้ใช้แอปพลิเคชั่น TikTok รายหนึ่ง ได้ออกมาอ้าง เปิดเผยข้อความว่า “มีข่าวหลุด!! อดีตนางเอกดังช่องหลายสี แอบไปซื้อหนุ่มนอกวงการกิน แล้วโดนชายหนุ่มอัดคลิป แบล็กเมล์ เรียกเงิน 4 แสน ล่าสุดมีคลิปหลุดออกมา เร็ว ๆ นี้ เจ้าตัวจัดเตรียมแถลงข่าวแน่นอน” ต่อมา ก็ได้โพสต์อีกว่า

“โดนแล้ว! อดีตนางเอกดัง ช่องหลายสี ชื่อย่อ จ. เข้าแจ้งความเอาผิดชายหนุ่มนอกวงการ หลังขายคลิปตนเอง ที่กำลังมีอะไรกัน ให้กลุ่มลับ กลุ่มหนึ่ง ในราคา 4 แสนบาท ซึ่งความยาวคลิปเต็ม 21 นาที มองเห็นหน้าตนเองชัดเจน เลยก่อให้เกิดความเสียหาย เจ้าตัวลั่น ไม่ยอมความ พร้อมเอาเรื่อง ให้ถึงที่สุด” กระทั่งทำให้เกิด การคาดเดากันไปต่าง ๆ นานา ว่าอดีตนางเอก จ. ช่องหลากสี นั้นคือใคร ซึ่งหนึ่งในนั้น ก็มีชื่อของ “จิ๊บ – คีตภัทร อันติมานนท์” ผู้แสดงสาว ยุค 90 ผุดขึ้นมา ว่าใช่หรือไม่

ล่าสุด วันนี้ (13 เดือนมกราคม 2566) “จิ๊บ” ได้ออกมาแจกแจงประเด็น ที่ถูกโยง ผ่านอินสตาแกรมส่วนตัว

การันตีว่า ไม่ใช่คนในข่าวอย่างแน่นอน พร้อมจะฟ้องร้องคดีตามกฎหมาย กับผู้ที่ทำให้เจ้าตัว แล้วก็ ครอบครัว ได้รับความเสียหาย โดยบอกว่า

“ขออนุญาตชี้แจงข่าวที่เป็นประเด็นอยู่ตอนนี้นะคะ ว่าไม่ใช่จิ๊บแน่นอนค่ะ

จากข่าวที่มีการใช้ชื่อหรือเจตนาใช้ภาพจิ๊บซึ่งทำให้ เกิดความเข้าใจผิดและเสียหายต่อตัวจิ๊บ ครอบครัว และแฟนเป็นอย่างมาก ซึ่งไม่เป็นความจริง ไม่ได้เกิดเรื่องและไม่ได้มีการไปแจ้งความดำเนินคดีใดๆ อย่างในข่าว จิ๊บมาหาครอบครัวที่อเมริกาเป็นเวลา 3 เดือนแล้วค่ะ

อยากขอให้ทุกคนใช้วิจารณญาณในการเสพข่าวส่วนผู้ที่ทำให้จิ๊บและครอบครัวได้รับความเสียหาย จะขอดำเนินคดีตามกฎหมาย เพื่อรักษาสิทธิ และความถูกต้องให้ถึงที่สุด ขอบคุณทุกๆ กำลังใจที่ส่งเข้ามานะคะ”

พร้อมเขียนแคปชั่นใต้โพสต์ด้วยว่า “ขออนุญาตชี้เเจงข่าวที่เป็นประเด็นอยู่ตอนนี้นะคะ ว่าไม่ใช่จิ๊บเเน่นอนค่ะ”

โดยแฟนคลับ ต่างเข้ามาแสดงความคิดเห็น รวมทั้ง ส่งพลังใจ ให้สาวจิ๊บ อย่างล้นหลาม มากมาย

ทำเอาโลกออนไลน์ร้อนแรงเป็นอย่างมาก หลังจากก่อนหน้านี้ มีข่าวซุบซิบแรง ว่ามีอดีตนางเอก จ. ช่องหลายสี ถูกขู่ ปล่อยคลิปลับ คลิปฉาว เรียกเงิน 4 แสนบาท ซึ่งผู้คนจำนวนไม่ใช้น้อยก็เดาไปเรื่อย แล้วก็ ในที่สุดคนไม่ใช่น้อยมาพุ่งเป้า ที่อดีตนางเอกมีชื่อเสียง จิ๊บ-คีตภัทร อันติมานนท์ ที่ถูกโยงว่า คือคนในคลิปฉาว ทำเอาเธอเสื่อมเสียชื่อเสียงขึ้นมาทันที

จิ๊บ คีตภัทร สวย

เปิดประวัติ “จิ๊บ คีตภัทร” สาวสวยฝีมือดี ที่คนอยากรู้จัก ให้มากขึ้น

ความคืบหน้าล่าสุด ในโลกอินเตอร์เน็ต มีหลายท่านถามไถ่มาจำนวนมาก ว่าสาวจิ๊บ ประวัติมีอะไรยังไงบ้าง บ้างก็กล่าวว่าสวยเด่น อยากทราบงานก่อนหน้าที่ผ่านมา จะได้ไปดูย้อนหลัง งานนี้เราเลยไม่พลาด มาอัพเดทให้แล้วจ้า…

คีตภัทร อันติมานนท์ ชื่อเล่น จิ๊บ เกิดเมื่อวันที่ 21 พฤศจิกายน พ.ศ. 2527 เป็นนักแสดงในสังกัดดาราวิดีโอและสถานีโทรทัศน์สีกองทัพบกช่อง 7 จิ๊บเป็นลูกครึ่งไทย-อังกฤษ เป็นลูกสาวคนเล็กของครอบครัวอันติมานนท์ จิ๊บเป็นนักแสดงสาวชาวไทย ซึ่งเป็นน้องสาวของนักแสดงชายคือ จิม-เจจินตัย แวนดิว นั่นเอง…

โดยจิ๊บเริ่มเข้าสู่วงการสายบันเทิงไทยเป็นนักแสดงมีผลงานเรื่องแรกเช่น กว่าจะรู้เดียงสา แสดงคู่กับ วี-วีรภาพ สุภาพไพบูลย์ เป็นที่รู้จักในบทบาท แว่นทิพย์ ซึ่งเป็นนางเอกในละครหลังข่าวเรื่องแรกเมื่อในปี 2543 และละครเรื่อง เจ้าสัวน้อย และผลงานที่แสดงคู่กับ วี-วีรภาพ สุภาพไพบูลย์ อีกหนึ่งเรื่องละครเรื่อง ลูกหลง ทำให้คีตภัทรเป็นนักแสดงที่รู้จักกันและมีชื่อเสียงในยุคนั้น ต่อมาจิ๊บรับงานละครหลายๆเรื่อง และเป็นการพลิกบทบาทเป็นนางร้ายและเป็นนักแสดงที่มีคุณภาพและมีความสามารถด้านการแสดงอีกคับคั่ง

สำหรับผลงานโดดเด่นของสาวจิ๊บนั้นมีมากมายหลายเรื่อง อาทิ กว่าจะรู้เดียงสา, กามเทพลวง, ลูกหลง, เบญจา คีตา ความรัก, รักล้นซอย, ยอดชายนายโข่ง, ทิวลิปทอง เป็นต้น

ผลงานเพลงประกอบละคร เพลง ดนตรีในหัวใจ เพลงประกอบละครเบญจา คีตา ความรักขับร้องร่วม เพลง เพื่อวันที่ดีกว่า เพลงประกอบละครเบญจา คีตา ความรักขับร้องร่วม

ในปัจจุบันนี้นอกจากงานในวงการบันเทิงแล้ว ยังทำงานมีธุรกิจส่วนตัว รวมไปถึงเธอยังมีธุรกิจส่วนตัวควบคู่ไปด้วย และนอกจากนั้นเธอยังเป็นพาร์ทเนอร์ร้านอาหารไทยที่ชื่อ Noi Thai Cuisine Greenlake ที่ Seattle ประเทศสหรัฐอเมริกา อีกด้วย

รวมไทยสร้างชาติ บิ๊กตู่

รวมไทยสร้างชาติ เปิดตัว "บิ๊กตู่" ยิ่งใหญ่ 28 คน จับมือทำงาน แย้มนโยบาย 3 ข้อ

รวมไทยสร้างชาติ เปิดตัว “บิ๊กตู่” ยิ่งใหญ่ในงาน “รวมใจ รวมไทยสร้างชาติ” โชว์ความสามารถ นักการเมืองรุ่นใหญ่-รุ่นใหม่ 28 คน ประเดิม ประสานมือทำงาน เพื่อบ้านเมือง บิ๊กตู่ แย้มนโยบาย พรรค 3 ข้อ รื้อสิ่งไม่ดี ลด ปลดเปลื้อง

เมื่อเวลา 15.00 น. วันที่ 9 มกราคม 2566 ที่ Exhibition Hall 1 ศูนย์ประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ พรรครวมไทยสร้างชาติ จัดงาน “รวมใจ รวมไทยสร้างชาติ” เปิดตัวพรรครวมไทยสร้างชาติ เข้าสู่สนามลงคะแนนเสียงอย่างเป็นทางการ นำโดย นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค หัวหน้าพรรค, นายเอกนัฏ พร้อมพันธุ์ เลขาธิการพรรค และก็ผู้บริหารพรรค สมาชิกพรรคที่เดินทางมาจากทั่วประเทศร่วมแสดงความยินดีแออัด โดยบรรยากาศเป็นไปอย่างครื้นครึก

รวมไทยสร้างชาติ โชว์

ก่อนการเริ่มงาน นายไตรรงค์ สุวรรณคีรี ในฐานะสมาชิกอาวุโสของพรรค

ได้ขึ้นเวทีเสวนาภายใต้หัวข้อ “เสวนาประสาไตรรงค์” โดยมีผู้สนใจเข้าร่วมการเสวนาจำนวนมาก โดยนายไตรรงค์กล่าวว่า ตอนนี้ประเทศไทยกำลังมีปัญหาโดยเฉพาะอย่างยิ่งอย่างยิ่ง การถูกธุรกิจสีเทา ธุรกิจเกี่ยวกับยาเสพติด เข้ามาทำให้ประเทศชาติตกต่ำ โดยไม่นึกถึงคุณธรรมรวมทั้งศาสนา

สิ่งเหล่านี้จะต้องรีบแก้ไข และก็การตั้งพรรคการเมืองขึ้น มาสักพรรคหนึ่งไม่ใช่แค่ ตั้งมาแต่จะต้องมีอุดมการณ์ แล้วก็แนวทางที่ชัดเจน ว่าจะให้ประเทศเดินไปทางไหน ซึ่งพรรครวมไทยสร้างชาติ มุ่งมั่นอย่างชัดเจน หนักแน่นว่าจะคุ้มครองป้องกันชาติ ศาสน์ กษัตริย์ พร้อมรักษาประเทศไทย ให้ดำรงความเป็นชาติไทยที่มีอำนาจอธิปไตยอย่างสมบูรณ์ เทียบเท่ากับประเทศอื่น ๆ

นายไตรรงค์ กล่าวว่ากล่าว ประเด็นสำคัญในตอนนี้ที่จะต้องให้ความสำคัญและพรรค รวมไทยสร้างชาติ มองเห็นคือประเด็นที่หนึ่ง ได้แก่ เรื่องของการเข้ามา ของประเทศมหาอำนาจ บางประเทศที่เข้าล้างสมองเยาวชน ให้เกลียดเกลียดประเทศ เผ่าพันธุ์ ประวัติศาสตร์ รวมทั้งศาสนาของประเทศด้วย คือปัญหาสำคัญ ที่ประเทศไทยกำลังเผชิญแล้วก็ต้องแก้ไขอย่างเร่งด่วน ประเด็นต่อ มาคือเรื่องของความเสื่อมทางจริยธรรม การคอร์รัปชัน ทุจริตกินของระบบข้าราชการไทย

ที่ทำให้เกิดธุรกิจสีเทาเพราะ มีข้าราชการและก็นักการเมืองไม่ดีให้การสนับสนุน ตนอยู่ในการเมืองมา 40 ปี รู้เรื่องนี้ดี ด้วยเหตุผลดังกล่าวจึงมีความคิดเห็นว่าเป็นเรื่องสำคัญ ที่ต้องกำจัดให้หมด ส่วนประเด็นสุดท้ายคือ การรักษาประเทศไทย ให้อยู่ในระบอบการปกครองประชาธิปไตย ที่มีพระมหากษัตริย์เป็นประมุขตลอดไป เพราะว่าประเทศ ที่ไม่มีระบบกษัตริย์ เป็นศูนย์รวมก็จะมีผลให้เกิดความแตกแยกเพราะมีการแย่งชิง ตำแหน่งประมุข ของประเทศด้วยวิธีการต่าง ๆ ทำให้ประเทศย่ำแย่เหมือนประเทศอื่นที่มองเห็นกันมามากมาย

ในตอนท้ายของการเสวนา นายไตรรงค์ได้ยกพระบรมราโชวาท ของในหลวง รัชกาลที่ 9 เกี่ยวกับการส่งเสริมคนดี ให้คนดีได้ปกครองบ้านเมือง รวมทั้งควบคุมคนไม่ดีไม่ให้มีอำนาจ ไม่ให้ก่อความตกที่นั่งลำบากวุ่นวายได้ โดยขอให้ประชาชน ได้เลือกคนดีเข้ามาเป็นตัวแทน เพื่อปกครองบ้านเมือง ตามพระบรมราโชวาท พร้อมกล่าวว่า ตนอยู่พรรคไหนก็จริงใจ กับพรรคนั้น ไม่ใช่คนเหยียบเรือสองแคม ไม่ใช่ปากอย่างใจอย่าง และก็มาพรรค รวมไทยสร้างชาติอีกทั้งครอบครัว รวมทั้งยังตระเตรียมให้ลูกสาว ลงสมัครรับเลือกตั้งเป็นผู้แทนด้วย ขณะเดียวกันยืนยันว่าจะสนับสนุนให้ พล.อ.ประยุทธ์ เป็นนายกรัฐมนตรีคนถัดไป เพราะว่ามั่นใจว่า พลเอกประยุทธ์ เป็นคนดี

รวมไทยสร้างชาติ งาน

ต่อมาเวลา 17.30 น. เป็นการเริ่มพิธีการบนเวที โดยวีดีโอแนะนำความเป็นมาของพรรค รวมไทยสร้างชาติ

ก่อนที่ นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐส่วน หัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ จะขึ้นเวทีเปิดตัว ผู้แทนทีมสมาชิกพรรครวมไทยสร้างชาติ 2 กลุ่มด้วยกัน ได้แก่ “คนรุ่นใหญ่” รวมทั้ง “คนรุ่นใหม่” โดยมีตัวแทนสมาชิกพรรค ทั้งสองกลุ่มขึ้นเวทีประกาศเจตนารมณ์ แล้วก็ความตั้งใจในการร่วมมือกันสร้างการเมืองที่ดี ที่ไม่เคยมีพรรคการเมืองใดเคยทำมาก่อน โดยจะเน้นการทำงานเพื่อประชาชน และก็ประเทศชาติ ผ่านแนวความคิดประดิษฐ์ของคนรุ่นใหม่ เร็ว แล้วก็ทันสมัย ผสมผสานกับการ ทำงานของนักการเมืองรุ่นใหญ่ ที่มีประสบการณ์สูงเพื่อให้เกิดการทำงานที่มีคุณภาพ มุ่งเป้าเพื่อประโยชน์ของประชาชน แล้วก็บ้านเมืองอย่างโดยความเป็นจริง

นายพีระพันธุ์ กล่าวว่า ตนไม่เคยเห็นมีคนมาประชุมงาน การเมืองมากเท่าวันนี้มาก่อน ในวันนี้มีการประชุมใหญ่วิสามัญ ครั้งที่ 1/2566 จัดเตรียมเลือกตั้งเพื่อจะมาเป็นพรรคหลักของประเทศถัดไป ครั้งแรกเพียงแค่จัดเตรียมแผนเพื่อตั้งคณะกรรมการสรรหา แต่ปรากฏว่ามีบุคคลสำคัญที่ประเทศไทยอีกทั้งประเทศจับตาว่าจะมาอยู่กับพรรครวมไทยสร้างชาติหรือไม่ ครั้งแรกจะเตรียมที่ ม.กรุงเทพธนบุรี แต่ไม่ยอมรับคนที่อยากจะมาไม่ได้

เพราะทุกคนอยากจะมาร่วมให้กำลังใจ เมื่อต้านความต้องการ ไม่ได้ก็เลยต้องย้ายพื้นที่ แต่ก็ไม่พอเพราะว่าปรากฏว่ามีคนล้นพื้นที่ออกไป สำหรับสมาชิกของพรรคที่ยืนอยู่บนเวที ไม่ได้มีเพียงเท่านี้แต่ยังมีมากกว่านี้ ตนเคยบอกไว้ตั้งแต่วันเปิดพรรคเมื่อ 3 สิงหาคมว่าจะนำพาพรรคเป็นพรรคหลักของประเทศ ตั้งแต่วันนั้นจนถึงวันนี้จากสมาชิก 7,000 กว่าคน จนกระทั่งตอนนี้มี 30,000 กว่าคนแล้ว

นายพีระพันธุ์ กล่าวต่อว่าต่อขาน ต่อไปนี้จะไม่มีสี ไม่มีฝ่าย พรรครวมไทยสร้างชาติจะก่อให้คนไทยกลับมามีความรักสามัคคีเหมือนเดิม ทั้งพี่น้อง นปช. ชาติพันธุ์ กลุ่มเสื้อแดง ทุกคนรักชาติบ้านเมือง ไม่มีใครอยากจะทะเลาะกันอีกแล้ว วันนี้ประเทศไทยจะต้องเดินหน้า พรรครวมไทยสร้างชาติ ทำแบบนี้ไม่ได้ถ้าไม่ได้รับความร่วมมือร่วมใจจากคนทั้งประเทศ แต่ก่อนตนประกาศว่าจะเป็นคนนำพาพรรคต่อสู้การออกเสียง แต่วันนี้มี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา มาเป็นผู้นำ ซึ่งที่ผ่านมาท่านไม่เคยคิดจะเป็นนักการเมืองแต่วันนี้สิ่งที่ พล.อ.ประยุทธ์ต้องการนำ ความรักความสามัคคีกลับมาให้กับประเทศไทย

ต่อมาเวลา 18.00 น. นับว่าเป็นช่วงไฮไลต์สำคัญ คือการเปิดตัว พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ในฐานะสมาชิกพรรครวมไทยสร้างชาติ อย่างเป็นทางการ โดยมีการเปิดภาพวีดิทัศน์การลงนามเป็นสมาชิกพรรครวมไทยสร้างชาติของ พล.อ.ประยุทธ์ ก่อนที่ พล.อ.ประยุทธ์ เดินขึ้นเวทีท่ามกลางเสียงตบมือต้อนรับของสมาชิกพรรค ที่มาร่วมงานและโบกธงโลโก้พรรค ให้กำลังใจเต็มห้องประชุม ก่อนที่ พล.อ.ประยุทธ์ จะกล่าวถึง Mission รวมทั้งทิศทางถัดไปเพื่อคนไทยอีกทั้งชาติ ว่า รู้สึกขอบคุณ ทุกคนเป็นคนไทยหัวใจเดียวกัน วันนี้ได้มาเป็นวันแรก ครั้งแรกในชีวิตที่สมัครเป็นสมาชิกพรรคการเมือง และก็พรรคที่เลือกสมัครคือพรรครวมไทยสร้างชาติ ตนอยู่กับคนไทยมาหลายปีแล้วทุกคนจะจำได้

อย่างไรก็ลบภาพทหารของตนไม่ได้ ที่ผ่านมาก็ปรับตัวมาตลอด ที่ตนมีวันนี้ได้เนื่องจากคนไทยทุกคน เพราะเหตุว่าประเทศไทยคือประเทศที่ศักดิ์สิทธิ์ วันนี้รู้สึกดีใจ ตื้นตันใจ แล้วก็ตื่นเต้น ทั้งที่ไม่เคยกลัว หรือตื่นเต้นกับอะไรมาก่อน เพราะเหตุว่าเป็นทหารกลัวไม่ได้ กลัวความรักที่ทุกคนให้มาจะเพียงแค่พอกันหรือไม่ ตนรักทุกคน สิ่งจำเป็นคือต้องยึดมั่นในชาติ ศาสน์ พระมหากษัตริย์ สำคัญที่สุด ตนเป็นทหาร ปฏิญาณตนมาคือ การสุจริต

 

รวมไทยสร้างชาติ รวม

พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวต่อว่าต่อขาน วันนี้อยากจะมากล่าวว่าเพราะอะไรตนต้องอยู่ต่อ ที่ต้องอยู่ต่อเนื่องจากว่ามีหัวใจดวงเดียวกัน ต้องทำเพื่อชาติ ศาสน์ กษัตริย์ แล้วก็ประชาชน ตนเป็นทหาร และทหารทุกคน ต้องเป็นที่พึ่งของประชาชนในทุกโอกาส หลายคนสงสัยว่าอยากยิ่งใหญ่ต่อหรือ ซึ่งขอบอกว่าไม่ใช่ ที่ผ่านมามีอำนาจมามากมายแล้วตลอดชีวิตราชการ

แต่อำนาจต้องมาพร้อมความรับผิดชอบ แล้วก็ความชอบธรรม ตนไม่ได้ต้องการเป็นผู้ยิ่งใหญ่ หรืออยากได้ผลประโยชน์อะไร แล้วก็ยืนยันว่าไม่เคยรับผลประโยชน์อะไรทั้งสิ้น และก็ที่มายืนตรงนี้เนื่องจากเคารพในกระบวนการ ประชาธิปไตยของประเทศ ที่มาไม่ได้อยาก มาอยู่เพื่อตำแหน่งอะไรต่อ แต่ประเทศไทยต้องไปต่อบนพื้นฐานความมีเสถียรภาพ ความมั่นคง ความรุ่งเรือง ที่ผ่านมาแก้ปัญหาประเทศมาอย่างสม่ำเสมอ แต่ปัญหามีมาก ถ้าหากมีโอกาสก็อยากจะแก้ถัดไป

พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวเหตุว่า การพัฒนาประเทศมี หลายมิติที่ตนก็ได้พยายามทำมาตลอด แล้วก็การที่ได้มาร่วมมือกับพรรคนี้ หวังว่าจะสามารถทำได้เร็วขึ้นเพื่อสร้างความเชื่อถือในเวทีโลก ต้องทำให้ประเทศไทยเข้มแข็งก่อน เพราะเหตุว่ามีทุกอย่างอยู่แล้ว อย่าให้ใครมาทำลายความรักความสามัคคี คนไทยเป็นคนรักสงบแต่ถึงรบไม่ขลาด ยังมีงานที่ตนต้องทำต่อจึงต้องต้องมายืนตรงนี้กับผู้บริหารพรรคทุกคน

ที่มาจากทุกภาค เนื่องจากว่าทั้งหมดคือประเทศไทยของทุกคน
ตนต้องการทำเรื่องนี้ให้เป็นจริงให้ได้ ที่ผ่านมาโควิดคือปัญหาของทั่วทั้งโลกแต่เรา สามารถยืนหยัดอยู่ได้ เป็นตัวอย่างความร่วมมือ ของความเป็นคนไทยของทุกคน ที่แม้ว่าวันนี้หลายอย่างจะดีขึ้นแล้ว แต่ต้องอย่าประมาทวันหน้าอาจจะมีเกิดขึ้นอีกได้ ต้องจัดเตรียม อาจจะก่อให้อึดอัด แต่ต้องพร้อม ต้องการเดินหน้าถึงแม้ว่าจะได้

รวมไทยสร้างชาติ ในงาน

พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวต่อว่า ที่ตนตัดสินใจมาอยู่ที่พรรครวมไทยสร้างชาติ

เพราะเห็นว่ามีอุดมการณ์เช่นเดียวกัน คือรักสถาบันชาติ ศาสน์ กษัตริย์เหมือนกัน ที่ผ่านมานอนไม่หลับมาหลายคืน ว่าจะทำอะไรถัดไปอย่างไรดี ก็ต้องเลือกแต่วันนี้เสมือนละครบุพเพสันนิวาส ตนก็นึกไม่ออกว่ามาลงเอย ที่พรรครวมไทยสร้างชาติได้อย่างไรแต่ คำว่า “รวมไทยสร้างชาติ” เป็นคำที่ตนเคยพูดไว้เอง

ซึ่งตนเชื่อถือในตัวของนายพีระพันธุ์ ตนเชื่อมั่นด้วยเหตุว่าเป็นนักกฎหมายมาก่อน และก็ทำงานการเมืองมาหลายปี รวมถึงทำงานกับตนมาแล้วก็เป็นที่ขอคำแนะนำของตน ตนรู้จักมานานว่า เป็นนักการเมืองที่มีคุณภาพ รวมทั้งนักการเมืองทั้งยังคนรุ่นเก่า รุ่นใหม่ ที่จะร่วมกันทำงาน เป็นการทำงานด้วยกันของคนทุกรุ่นเพื่อประเทศไทยของทุกคน

“นโยบายหลักของพรรครวมไทยสร้างชาติ คือ รื้อ ไม่ใช่รื้อถอนทุกอย่าง ต้องดูว่าระเบียบ กฎหมายอะไรที่ต้องแก้ไขบ้าง ที่เขาเรียกว่ากฎหมายกิโยติน บางอย่างไม่ดีก็ต้องเลิก เพื่อให้ทันสมัย เป็นสากลนั่นคือการรื้อถอน สองคือลดภาระหน้าที่ต่าง ๆ ของประชาชนในการดำรงชีวิต สามคือปลดเปลื้องภาระหน้าที่ค่าครองชีพแล้วก็หนี้สินด้วยรูปแบบใหม่ ๆ สร้างสังคมใหม่ของชาติเป็นการเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ด้วยแนวทางการที่เป็นธรรมที่ไม่ทำให้เกิดปัญหาในอนาคตด้วย โดยไม่ทิ้งภาระหน้าที่ไว้ให้คนข้างหน้า” พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว

ทั้งนี้ในตอนท้าย พล.อ.ประยุทธ์ ได้นำผู้บริหารพรรคทั้งหมดร้องเพลง ศรัทธา ก่อนที่ พล.อ.ประยุทธ์ และนายพีระพันธุ์จะร่วมกันโบกธงไตรรงค์ รวมทั้งธงสัญลักษณ์พรรครวมไทยสร้างชาติพร้อมปักลงบนเวที จากนั้นก็เลยได้นำผู้บริหาร และสมาชิกทุกคนด้วยกันชูมือ และมีการเคลื่อนธงรวมไทยสร้างชาติขนาดใหญ่ผ่านสมาชิกพรรคสู่บริเวณหน้าเวที ในตอนท้ายทั้งหมดได้ถ่ายรูปแล้วก็ร้องเพลงสรรเสริญพระบารมี ด้วยกันอย่างกึกก้องห้องประชุม

นับเป็นการเริ่มต้นการทำงานทางการเมืองอย่างเป็นทางการของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ในฐานะสมาชิกพรรครวมไทยสร้างชาติ รวมทั้งยังถือเป็นการเริ่มการเดินหน้าของพรรครวมไทยสร้างชาติในการเตรียมการสู้ศึกลงคะแนนที่ใกล้จะถึงนี้อีกด้วย

ดังนี้รายชื่อ สมาชิกพรรค รวมไทยสร้างชาติ ที่ขึ้นมาเปิดตัวภายในงาน ประกอบด้วย

รุ่นใหญ่

ดร.ไตรรงค์ สุวรรณคีรี
นายชัชวาลล์ คงอุดม
นายชุมพล กาญจนะ
นพ.ปรีชา มุสิกุล
นายวิทยา แก้วภราดัย
นายวิสุทธิ์ ธรรมเพชร
นายทศพล กฤตวงศ์วิมาน
นายพงษ์ศักดิ์ จ่าแก้ว
นายเกชา ศักดิ์สมบูรณ์
นายปรากรมศักดิ์ ชุณหะวัณ
พันเอก เฟื่องวิชชุ์ อนิรุทธเทวา
นายสามารถ มะลูลีม
นายเสกสกล อัตถาวงศ์
นายโกวิทย์ ธารณา
นายเกรียงยศ สุดลาภา
นายสมบูรณ์ อุทัยเวียนกุล

รุ่นใหม่

นายเอกนัฏ พร้อมพันธุ์
รศ.(พิเศษ) ดวงฤทธิ์ เบ็ญจาธิกุล ชัยรุ่งเรือง
นายชื่นชอบ คงอุดม
นายสยาม บางกุลธรรม
นายเนวินธุ์ ช่อชัยทิพฐ์
นางสาวศิรินันท์ ศิริพานิช
นายดนัยณัฏฐ์ โชคอำนวย
นายพลัฏฐ์ ศิริกุลพิสุทธิ์
ว่าที่ ร.ต.อ.หญิง อัยรดา บำรุงรักษ์
นายวินท์ สุธีรชัย
นายอภิชา นิธิอนันตภร
นางสาวณัฐวรินธร บวรภัค